พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ 1000
อนึ่ง เดียรถีย์ทั้งหลาย ระลึกได้ลำดับขันธ์เท่านั้น พ้นลำดับไปแล้วไม่สามารถระลึกถึงจุติและปฏิสนธิได้. เดียรถีย์เหล่านั้นระลึกได้ไม่พ้นลำดับขันธ์เหมือนคนตาบอดไม่ปล่อยไม้เท้าเดินไปฉะนั้น. สาวกธรรมดา ระลึกได้แม้ตามลำดับขันธ์ ย่อมก้าวไปถึงจุติปฏิสนธิมหาสาวก ๘๐ รูป ก็อย่างนั้น. ส่วนอัครสาวกทั้งสอง ไม่มีกิจต้องระลึกตามลำดับขันธ์ คือ เห็นจุติของอัตภาพหนึ่งแล้ว ย่อมเห็นปฏิสนธิด้วย ย่อมก้าวเลยไปถึงจุติและปฏิสนธิอย่างนี้ คือ ครั้นเห็นจุติของคนอื่นอีกก็ย่อมเห็นปฏิสนธิด้วย. พระปัจเจกพุทธเจ้า ก็เหมือนกัน. ส่วนพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ไม่มีกิจต้องระลึก ตามลำดับขันธ์ ไม่มีกิจต้องระลึกก้าวไปถึงจุติปฏิสนธิ เพราะว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงปรารถนาฐานะใดๆ ข้างล่าง คือ ล่วงแล้วก็ดี ข้างบนคือ อนาคตก็ดี ในโกฏิกับป์ไม่น้อยฐานะนั้นๆ ย่อมปรากฏได้ทีเดียว. เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงย่อโกฏิกับป์แม้ไม่น้อย แล้วปรารถนาฐานะใดๆ ทรงก้าวเข้าไปในฐานะนั้นๆ ด้วยสามารถแห่งการก้าวไปของ พระพุทธเจ้าผู้สีหะ ญาณของพระพุทธเจ้าเหล่านั้นไปอยู่อย่างนี้ ไม่ติดขัดในชาติในระหว่างๆ ย่อมถือเอาฐานะที่ปรารถนาแล้วๆ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ