การระลึกรู้สภาพธรรม ทำให้หมดกิเลสได้อย่างไร
โดย buntham-2488  18 ส.ค. 2553
หัวข้อหมายเลข 16976

กราบเรียนท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพ ตามที่ท่านสอน ให้ระลึกรู้สภาพธรรมที่เกิดทางทวารทั้ง 6 นั้น จะทำให้กิเลสคลายลง หรือหมดกิเลสได้อย่างไรครับ

ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 20 ส.ค. 2553

การระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฏ ทางทวารทั้ง ๖ ตามความเป็นจริง ชื่อว่าการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ชื่อว่าเป็นการอบรมเจริญปัญญา ชื่อว่าเป็นการอบรมเจริญอริยมรรค เมื่ออบรมจนปัญญาเจริญขึ้น ปัญญาย่อมกระทำกิจของปัญญา คือการรู้ตามความเป็นจริง เพราะรู้ตามความเป็นจริง จึงละความถือมั่น ละคลายกิเลส และดับกิเลสได้ในที่สุด ผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน จนคู่ควรแก่การตรัสรู้ย่อมมีอานิสงส์มาก..

ขอเชิญคลิกอ่านที่...

อานิสงส์ของการอบรมเจริญสติปัฏฐาน


ความคิดเห็น 2    โดย Endeavor  วันที่ 21 ส.ค. 2553

เพราะกิเลสเกิดได้ทั้ง 6 ทวาร คือ ตามปกติแล้วเมื่อทางตาเห็นรูปที่ดี ก็เกิดความยินดีพอใจ เป็นกิเลสเมื่อทางตาเห็นรูปที่ไม่ดี เกิดความขุ่นเคืองใจ เป็นกิเลสเมื่อทางหูได้ยินเสียงที่ดี ก็เกิดความยินดีพอใจ เป็นกิเลสเมื่อทางหูได้ยินเสียงที่ไม่ดี ก็เกิดความขุ่นเคืองใจ เป็นกิเลสเมื่อทางจมูกได้รับกลิ่นที่ดี ก็เกิดความยินดีพอใจ เป็นกิเลสเมื่อทางจมูกได้รับกลิ่นที่ไม่ดี ก็เกิดความขุ่นเคืองใจ เป็นกิเลสเมื่อทางลิ้นลิ้มรสที่ดี ก็เกิดความยินดีพอใจ เป็นกิเลสเมื่อทางลิ้นลิ้มรสที่ไม่ดี ก็เกิดความขุ่นเคืองใจ เป็นกิเลสเมื่อทางกายรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสที่ดี ก็เกิดความยินดีพอใจ เป็นกิเลสเมื่อทางกายรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสที่ไม่ดี ก็เกิดความขุ่นเคืองใจ เป็นกิเลสเมื่อทางใจ มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ หรือบัญญัติ ที่น่าพอใจเป็นอารมณ์ ก็เกิดความยินดีพอใจ เป็นกิเลสเมื่อทางใจมีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะหรือบัญญัติที่ ไม่น่าพอใจเป็นอารมณ์ ก็เกิดความขุ่นเคืองใจ เป็นกิเลส

เป็นประจำทุกๆ วัน จะดับกิเลสเหล่านี้ได้อย่างไรล่ะครับ??

เพราะผู้ที่ยังไม่ได้ดับกิเลสนั้น ยังเห็นสิ่งต่างๆ ทั้ง 6 ทวารว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด จึงเห็นว่าสิ่งเหล่านั้น เที่ยง (ไม่แตกดับ) เป็นสุข (น่าพอใจน่ายึดติด) และเป็นตัวตน (เป็นเขา เป็นเรา เป็นสิ่งต่างๆ)

แต่ผู้ที่ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ โดยรู้แจ้งสภาพธรรมทั้งหลายทั้ง 6 ทวาร (ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่กับทุกคนทุกๆ ขณะในตอนนี้ด้วย) ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา จึงเห็นความไม่มีสาระของสิ่งเหล่านี้ จะค่อยๆ ละคลายกิเลสที่ได้สั่งสมไว้มานานแล้วได้

ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาประจักษ์แจ้งสภาพธรรมทั้งหลาย ถึงขั้นพระอนาคามีบุคคลนั้น เมื่อทางตาเห็นรูปที่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางตาเห็นรูปที่ไม่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางหูได้ยินเสียงที่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางหูได้ยินเสียงที่ไม่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางจมูกได้รับกลิ่นที่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางจมูกได้รับกลิ่นที่ไม่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางลิ้นลิ้มรสที่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางลิ้นลิ้มรสที่ไม่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางกายรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสที่ดี กิเลสไม่เกิดเมื่อทางกายรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสที่ไม่ดี กิเลสไม่เกิดไม่ใช่เพียงข่มกิเลสไว้ชั่วคราวนะครับ แต่พระอนาคามีได้ดับเหตุปัจจัยทั้งหมดของกิเลสที่เป็นไปกับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะจนหมดสิ้นแล้ว โดยไม่ต้องข่ม หรือบังคับเลย แต่เพราะสติระลึก และปัญญารู้ชัด ในสภาพ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของสิ่งที่ปรากฏ

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่พยายามอย่างอื่นที่ไม่ได้ทำให้มีความเข้าใจอะไร ในสิ่งที่กำลังปรากฏทั้ง 6 ทวารตามความเป็นจริงเพิ่มขึ้น กิเลสก็ไม่มีทางที่จะดับได้เลยครับ


ความคิดเห็น 3    โดย Komsan  วันที่ 21 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย hadezz  วันที่ 23 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย captpok  วันที่ 23 ส.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย buntham-2488  วันที่ 24 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ

ขอเชิญทุกท่านร่วมสนทนา


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 17 พ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ