"ความเข้าใจที่ถูกต้องในธรรมะไม่สูญหาย"
ได้ฟังประโยคนี้จาก ไฟล์สนทนาธรรม
//www.dhammahome.com/audio/topic/4313
หมายถึง ชาติหน้าก็จะมีความเข้าใจนี้ติดตามไปด้วยใช่มั้ยคะ
ขอรบกวนอธิบายขยายความทีค่ะ
ทรัพย์สมบัติ เงินทองยังมีโอกาสสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม โจรปล้น แต่กุศลและปัญญา
ที่สั่งในชาตินี้เป็นเงาตามติดตัวไปในภพหน้าและภพต่อๆ ไปจนกว่าจะบรรลุคุณธรรมค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ความเข้าใจถูกหรือปัญญาซึ่งก็คือกุศลจิตที่เกิดขึ้นประกอบด้วยปัญญา เมื่อเกิดขึ้น
แล้วย่อมสะสมสืบต่อในจิตดวงต่อๆ ไป ไมได้สูญหายเพราะจิตเป็นสภาพธรรมที่สะสม
คือสะสมทั้งกุศลและอกุศล ซึ่งที่กล่าวว่าชาติหน้าก็คือการเกิดดับสืบต่อกันของจิตแต่ละขณะนั่นเอง ความเข้าใจจึงสะมต่อไปแต่ก็แล้วแต่ว่าชาติต่อไปจะได้มีโอกาสสะสมปัญญาต่อไปหรือไม่ แต่พืชเชื้อที่ได้ก่อเอาไว้ในขณะที่ปัญญาเกิดขึ้นไม่ได้หายไปไหน แต่ที่สำคัญเมื่อพิจารณาด้วยปัญญาว่าจิตเป็นสภาพธรรมที่สะสมแล้วจึงเห็นประโยชน์ของการเจริญกุศลทุกๆ ประการและอบรมปัญญา เพระไม่มีสิ่งใดติดตามไปได้นอกจากการสะสมในฝ่ายดีและไม่ดีที่เกิดขึ้นกับจิตครับ ขออนุโมทนา อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาค่ะ
"ความเข้าใจที่ถูกต้องในธรรมะไม่สูญหาย"
ความเข้าใจถูกเห็นถูกจะสะสมสืบเนื่องอยู่ในจิตที่เกิดดับต่อเนื่องกันไป ไม่สูญหาย
ไปไหน และจะเป็นปัจจัยให้เกิดปัญญาความเข้าใจที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นต่อไปครับ
หมายถึง ชาติหน้าก็จะมีความเข้าใจนี้ติดตามไปด้วยใช่มั้ยคะ
ดังที่ได้กล่าวแล้วว่าความเข้าใจจะไม่สูญหาย แต่หากใช้คำว่า "ติดตามไป" อาจ
สื่อให้เข้าใจว่า มีอะไรบางอย่างที่ติดตามไปในลักษณะที่ต่อเนื่องหรือเป็นตัวตน ซึ่ง
ความเข้าใจธรรมะนี้คือ ปัญญาเจตสิก ที่เกิดขึ้นทำกิจเข้าใจถูกเห็นถูก แล้วก็ดับไป
ปัญญาเจตสิก เป็นสังขารธรรม อันเป็นสภาพที่ต้องอาศัยปัจจัยอื่นจึงเกิดขึ้นได้
หากไม่มีปัจจัยที่เหมาะสมเช่น ไม่ได้ฟังพระธรรม หรือคบคนพาลเป็นมิตร หรือเกิดใน
อบายภูมิ ทำให้แม้จะได้สะสมปัญญามามากแต่ปัญญาก็อาจจะไม่เกิดขึ้นทำกิจอีกเลย
จนกว่าจะได้ไปเกิดในสุขติภูมิ ไม่พิการอย่างรุนแรง และได้ฟังธรรมจากท่านผู้รู้อีก
ครั้ง เมื่อนั้นจึงจะเป็นปัจจัยให้ปัญญาเกิดขึ้นทำกิจได้ ซึ่งเป็นปัญญา (ดวง) ใหม่ที่มี
ปัญญาที่สะสมไว้แล้ว (และปัจจัยอื่นๆ ) เป็นปัจจัยทำให้เกิดขึ้น
ประการสำคัญ อย่าลืมว่าในชีวิตประจำวันนั้นเราสะสมอกุศลมากกว่าความเข้าใจ
ถูก และปัจจัยที่จะทำให้อกุศลเกิดขึ้นทำกิจนั้นก็มีอยู่มาก ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท
ในความเข้าใจที่มีอยู่ เพราะตราบใดที่ยังไม่บรรลุสัจจธรรมเป็นพระอริยบุคคล ก็ยังไม่
พ้นภัยในสังสารวัฏฏ์ และควรทำความเพียรศึกษาพระธรรมอันประเสริฐที่ได้พบแล้ว
ในอัตภาพนี้ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าครับ
สาธุ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๓ - หน้าที่ 119
พระเถระแม้นี้ ได้ทำบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าในปางก่อน
สั่งสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระอรหัต ในภพนั้นๆ
[เล่มที่ 52] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๓ - หน้า 119
ความเข้าใจที่ถูกต้องในธรรมะไม่สูญหาย พระผู้มีพระภาคเจ้าในขณะที่ยังเป็นพระโพธิ-สัตว์ก็ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาถึง ๔ อสงไขยแสนกัปป์ เมื่อถึงกาลที่ได้ตรัสรู้แล้ว ก็ทรงถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เลิศกว่าใครในทุกโลก ถ้าพระองค์ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องในธรรมะที่ได้สะสมมาในชาติก่อนๆ พระองค์ก็จะตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้น ความเข้าใจที่ถูกต้องในธรรมะไม่สูญหายแน่นอน เกิดแล้วดับ ดับแล้วก็สะสมอยู่ในจิตที่เกิด - ดับสืบต่อกันไปทุกๆ ขณะ จนกว่าจะได้ปัจจัยเกิดอีก เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจ สำหรับผู้ที่เป็นสาวกครับ
ขออนุโมทนาค่ะ จะขอฟังและอบรมไปเรื่อยๆ เพื่อเข้าใจที่ถูกต้องเป็นอุปนิสัยและสะสม จากชาตินี้ไปถึงภพต่อๆ ไป
เราคงต้องสะสมไปอีกนานนะค่ะ
,,