ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทุกสิ่งที่เกิดต้องมีปัจจัยให้เกิดขึ้นเป็นไปตามธรรมะนั้นๆ ตราบที่ยังไม่ได้ดับความไม่รู้
ธรรมะต่างกันเป็นสองอย่าง คือ สภาพรู้และสภาพไม่รู้
เมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นก็ต้องหมดไปเป็นธรรมดา "ทุกอย่างชั่วคราว" ถ้าได้ยินคำนี้มั่นคงจริงๆ สามารถที่จะหมดกิเลสถึงความเป็นพระอรหันต์ได้ แต่ว่าความไม่รู้มีมาก ... ความติดข้องมีมาก เพราะฉะนั้นก็หลงไม่รู้และหลงติดข้องต่อไปจนกว่าจะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธพระเจ้า
คำของพระองค์พูดถึงชีวิตทุกชีวิตทั้งหมดที่มีจริงๆ รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างด้วย ซึ่งถ้าไม่รู้ก็คือว่าทำไมเกิดมาเป็นเรา ทำไมไม่เกิดอย่างโน้นอย่างนี้บ้าง แต่เกิดเป็นเราเพราะต้องเป็นเรา เพราะเหตุที่ได้ทำไว้จะต้องเป็นอย่างนี้ ก็ต้องเป็นอย่างนี้
การกระทำใดๆ มีทั้งดีและชั่ว ผลก็ต้องเป็นตามเหตุ ถ้าเหตุไม่ดีจะนำมาซึ่งผลดีไม่ได้
บางวันก็เป็นสุข บางวันเจ็บไข้ได้ป่วยบางวันก็สนุกสนานรื่นเริง บางวันก็ทุกข์ร้อน บังคับไม่ได้เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามเหตุที่ได้กระทำ
กรรมคือการกระทำ ถ้าทำดีก็ได้ดี นำมาซึ่งผลดี ถ้าทำชั่วก็นำมาซึ่งผลชั่วแต่ว่าเหตุต้องมี เหตุไม่ดีที่ทำ ผลคือจากโลกนี้ไปแล้วเกิดไม่ดี ทำไมมีหนู มีนก มีแมว มีช้าง มีจิ้งจก มีตุ๊กแกทำไมไม่มีแต่คน เนื่องจากที่ได้กระทำไว้
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีใครสามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงเหตุที่ได้กระทำแล้วได้เลย แม้เกิดเป็นมนุษย์ รูปร่างหน้าตาก็ต่างกัน แม้เป็นพี่น้องกันก็ยังต่างกันได้ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามเหตุ เป็นปัจจัยที่จะให้เกิดขึ้น
การเกิดเป็นผลของกรรม มีตาเพื่อรับผลของกรรม มีหู จมูก ลิ้น กายสำหรับรับผลของกรรม ต่อไปนี้พอได้รับผลที่ดีก็เพราะกรรมที่ได้ทำมา แต่กรรมไหนก็ไม่รู้ ชาติไหนก็ไม่รู้ แต่มีเหตุดีแน่ๆ ที่ได้ทำมา
ครึ่งหนึ่งของชีวิตเกิดมาเป็นผลของกรรม แต่อีกครึ่งหนึ่งเป็นกรรม เพราะยังมีกิเลสทำให้เกิดผลต่อไป ... นี่คือธรรมะไม่ใช่เรา ต้องไม่ลืม สิ่งที่มีจริงเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยแล้วก็ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย แค่ไม่กี่คำแต่ขอให้เข้าใจจริงๆ
" เป็นไปตามธรรมะ "
เนื้อหาในการดำเนินรายการสนทนาธรรมกับคณะอาจารย์ มศพ.
วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐-๑๑.๓๐ น.
สามารถรับฟังได้ทาง : youtu.be/JW5tTg0mHLQ?si=gV1CQ5dGA0hNbCpu
ดำเนินรายการโดยอาจารย์ธนากร นรวชิรโยธิน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
เป็นไปตามธรรมะ เพราะการศึกษาธรรมะลืมไม่ได้เลยว่า ธรรมะคือสิ่งที่มีจริงๆ ที่มีลักษณะให้รู้ว่ามีจริงและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่นเห็นเป็นเห็น เปลี่ยนไม่ได้เลย
ธรรมะ สิ่งที่มีจริงชั่วคราว แสนสั้นเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยและหมดไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย
ชีวิตก็คือความเป็นไปของสภาพธรรมะ แบ่งเป็นส่วนของกรรมและผลของกรรม
เป็นไปตามธรรมะในขณะนี้เอง ขณะที่เห็นคือเห็นเกิดขึ้นเป็นไปจากกรรมที่ทำมาแล้วก่อนๆ นี้
ตราบที่ยังมีความไม่รู้อยู่ ก็ยังคงต้องมีการเกิดขึ้นเป็นไปตามธรรมะ หยุดไม่ได้เลยตราบใดที่ยังมีอวิชชา ก็ยังคงเป็นไปตามนั้น
หนทางเดียวคือฟังคำของพระพุทธเจ้า ค่อยๆ รู้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามลำดับๆ จนกระทั่งสามารถดับความไม่รู้และอกุศลทั้งปวง เป็นหนทางของปัญญาที่งานตั้งแต่เบื้องต้น
เป็นไปตามธรรมะ พระพุทธเจ้าทรงแสดงสิ่งที่กำลังเป็นไปขณะนี้ เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้
สนทนาธรรมออนไลน์
เรื่อง " เป็นไปตามธรรมะ "
กับ คณะอาจารย์ มศพ.
วันจันทร์ที่ 11 พฤจิกายน 2567
เวลา 10.00 - 11.30 น.
🟦Facebook : วิทยุออนไลน์บ้านธัมมะ
www.dhammahome.com/radio
🟦Facebook : ชมรมบ้านธัมมะ
www.facebook.com/share/v/1D9yTykwKD
🟥YouTube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
www.youtube.com/live/7KWdtowXQGI?si=KTGkQndhfzjTGXKp
ยินดีในกุศลจิตค่ะ