จำแนกจิตอย่างไร ถึง มี 89 หรือ 121
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมทั้งปวง ทรงเป็นพระสัพพัญญู คือ รู้ธรรมทั้งปวง พระองค์ทรงแสดงจิตที่มีอยู่ในสากลจักรวาลทั้งหมดทั้งจิตของปุถุชน และพระอริยะทั้งปวง จิตของสัตว์ใน ๓๑ ภูมิทุกจักรวาลนับแล้ว ไม่นับซ้ำอีกประมวลได้ ๘๙ โดยพิสดาร ๑๒๑ ประเภท จำแนกโดยระดับขั้นมี ๔ ระดับ คือ กามมาวจรจิต ๑ รูปาวจรจิต ๑ อรูปาวจรจิต ๑ โลกุตตรจิต ๑ จำแนกโดยชาติคือการเกิด มี ๔ คือ กุศล ชาติ ๑ อกุศลชาติ ๑ วิปากชาติ ๑ กิริยาชาติ ๑ ฯลฯ
จิต 89 ประเภท คือ กามาวจรจิต 54 ดวง
รูปาวจรจิต 15 ดวง
อรูปาวจรจิต 12 ดวง
โลกุตตรจิต 8 ดวง
จิต 121 ประเภท คือ
กามาวจรจิต 54 ดวง
รูปาวจรจิต 15 ดวง
อรูปาวจรจิต 12 ดวง
โลกุตตรจิต 40 ดวง
จาก หนังสือ ปรมัตถธรรมสังเขป หน้า 353
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)