ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา ธัมมานุปัสสนา เป็นปัญญาที่รู้ตามความเป็นจริง ที่มีปัจจัยเกิดแล้วปรากฏ
เดี๋ยวนี้มีแล้ว เกิดแล้วปรากฏ รู้ตามสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องไปทำอะไรเพราะฉะนั้น เราต้องสะสมปัญญา ที่จะรู้ความเป็นจริงถ้าไม่มีปัญญาระดับนี้ ก็รู้ตามเรื่องราวเท่านั้นเอง
อนัตตา ทิ้งไม่ได้เลย ลืมไม่ได้นะคะเห็นโลภะแทรกไหม เวลาที่เราอาจจะคิดว่าเราต้องอยู่อย่างนั้น แล้วสติจึงจะเกิดโลภะจะคอยมาล่ออยู่ตลอดเวลาโลภะ เป็นสมุทัยอริยสัจจ์...เห็นยากเพราะลึกซึ้งเพราะฉะนั้น ขณะที่มีสติ เพียงอยากเกิดขึ้นนิดเดียวก็รู้เลยว่า นี้คือ สมุทัย นี้คือโลภะ
อริยสัจจ์ ๓ รอบ คือ สัจญาณ กิจญาณ กตญาณ
สัจญาณ คือ รู้จริงๆ ในอริยสัจจ์ ๔ คือ ทุกขสัจจ์ ต้องรู้ขณะนี้ ไม่ใช่ขณะอื่นระลึกได้เมื่อไร ขณะนั้นก็สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นฐาน หรือ เป็นอารมณ์ที่ตั้งของสติสติที่กำลังระลึก ไม่ใช่ขั้นทาน ขั้นศีล หนทางนี้ เป็นหนทางที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสาวกทุกท่านดำเนิน
บรรยายโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนา
[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒- หน้าที่ ๔๒๖
คำว่า มี วนรอบ ๓ คือ วน ๓ รอบ ด้วยอำนาจ วนรอบ ๓ กล่าวคือ สัจญาณ กิจญาณ และกตญาณ ก็ใน วนรอบ ๓ นี้ ญาณ ตามความเป็นจริง ในสัจจะ ๔ อย่างนี้ คือ นี้ ทุกขอริยสัจจะ นี้ ทุกขสมุทัย ชื่อว่า สัจญาณ
ญาณ ที่เป็นเครื่องรู้กิจที่ควรทำ อย่างนี้ ว่า ควรกำหนดรู้ ควรละ ในสัจจะเหล่านั้นเที่ยว ชื่อว่า กิจญาณ
ญาณ เป็นเครื่องรู้ภาวะแห่งกิจนั้น ที่ทำแล้วอย่างนี้ ว่า กำหนดรู้แล้ว ละได้แล้ว ดังนี้ ชื่อว่า กตญาณ
ข้อมูลจาก "ธัมมนิทเทส"
ขออนุโมทนา
สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ