“นามรูป เป็น เท็จ”
ข้อความในพระไตรปิฎก แสดงว่า “นามรูปเป็นเท็จ” นามรูป แม้ว่าเป็น ความจริง แต่ว่าสั้น ชั่วคราว เกิดดับ สืบต่อ จึงเป็น “เท็จ” เพราะลวงให้เห็นว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่ดับ (เที่ยงแท้ ยั่งยืน ตัวตน)
รวมข้อความเกี่ยวกับ นามรูป
“ขณะนี้ มีสิ่งที่ปรากฏ กำลังปรากฏ มีลักษณะ คือ เพียงปรากฏให้เห็นได้ชั่วคราวแล้วดับ”
“หลังจากเห็นแล้ว ก็คิดนึกโดยตลอด จนลืมว่าแท้จริง เป็นสิ่งที่สามารถปรากฏให้เห็นได้”
“การเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ปรากฏ และดับไป จึงสามารถเห็นได้ว่า เป็นทุกข์ แสนสั้นเมื่อเห็นอย่างนี้แล้วจึงเป็นการละความสงสัย ละสักกายทิฏฐิ ด้วยสามารถที่จะรู้เหตุ คือ อวิชชา ที่ทำให้ไม่รู้ และยึดถือธรรมว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด”
“อย่างไร ก็ต้องเห็นอยู่ตลอด เห็นแล้วก็จำ แต่ถ้าเป็นปัญญา ก็เห็นชัดขึ้น มั่นคงขึ้นละความสงสัย ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ใครทำ แต่เพราะจิตเกิดขึ้น”
“นิพพานเป็นจริง”
การอบรมเจริญปัญญาให้เข้าใจความจริงยิ่งขึ้น คือ หนทางเดียวเท่านั้น ที่ทำให้รู้ในธาตุที่ไม่เกิดไม่ดับ เป็นธาตุที่ไม่มีการลวง ให้เห็นว่าเป็นเรา สัตว์ บุคคล ตัวตนจะเห็นเป็นอย่างอื่น เหมือนที่เคยเห็นไม่ได้ “นิพพานจึงไม่เท็จ” ซึ่งเป็นข้อความในพระไตรปิฎก “ซึ่งข้อความทั้งหมด ถ้ามีความเข้าใจ ก็สามารถค่อยๆ เข้าใจถึงสัจจะความจริงของธรรม ซึ่งสอดคล้องกันหมด”
อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากสุภากัมมารธิดาเถรี คาถา..
ข้อความเตือนสติเรื่องสุภากัมมารธิดาเถรีคาถา
“นามรูป เป็น เท็จ” ข้อความในพระไตรปิฎก แสดงว่า “นามรูปเป็นเท็จ” นามรูป แม้ว่าเป็น ความจริง แต่ว่าสั้น ชั่วคราว เกิดดับ สืบต่อ จึงเป็น “เท็จ” เพราะลวงให้เห็นว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่ดับ (เที่ยงแท้ ยั่งยืน ตัวตน)
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ คุณวิทวัส ด้วยค่ะ...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ..
ขออนุโมทนาค่ะ
“หลังจากเห็นแล้ว ก็คิดนึกโดยตลอด จนลืมว่าแท้จริง เป็นสิ่งที่สามารถปรากฏ ให้เห็นได้”
ขออนุโมทนาค่ะ