ปีที่แล้วพาคนรู้จักกันไปที่โรงพยาบาลตรวจร่างกาย พยาบาลวัดความดันโลหิตได้ ๑๔๖-๙๐ mm hg พยาบาลบอกว่าความดันโลหิตสูงไป ขอวัดอีกที แล้ววัดครั้งที่๒ ๑๒๒-๘๕ mm hg

ปืนี้ พาคนรู้จักกันไปที่โรงพยาบาลตรวจร่างกาย พยาบาลวัดความดันโลหิตได้ ๑๔๒-๘๗ mm hg พยาบาลบอกว่าความดันโลหิตสูงไป ขอวัดอีกที แล้ววัดครั้งที่๒ ๑๒๔_-๗๘ mm hg

เลยถามเขาว่า ทำยังไงวัดความดันโลหิตครั้งที่๒ ได้ลดลงเหมือนคนปกติ เขาบอกว่าวัดครั้งที่๒ เขามองไปที่ต้นไม้นอกหน้าต่าง

เป็นไปใช่หรือไม่ว่าเขาทำ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่มีใครทำอะไรได้ ทุกขณะของชีวิตคือความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมทั้งนั้น แม้แต่ในขณะที่มองไปข้างนอก มองไปที่ต้นไม้นอกหน้าต่าง ขณะนั้น ถ้าไม่มีความประสงค์ไม่มีความต้องการ จะมองไปตรงนั้นได้หรือ? ถ้าไม่มีตา จะมองเห็นได้ไหม? ถ้าไม่มีสิ่งที่กระทบตา จะเห็นได้ไหม? และที่รู้ว่าเป็นต้นไม้ข้างนอกหน้าต่าง นั่นก็คือ คิดแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยทังนั้น ในขณะที่จิตเป็นอกุศลเป็นไปกับด้วยโลภะ จะต่างกันกับขณะที่เกิดความเดือดร้อนใจกระวนกระวายใจด้วยโทสะ ก็ย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้รูปที่เกิดจากจิตขณะนั้นมีความแตกต่างกันไปตามความเป็นไปของจิต
สิ่งที่ควรจะได้เข้าเข้าใจเพิ่มเติม คือ ปัสสัทธิ ปัสสัทธิคืออะไร? มีจริงหรือไม?

ปัสสัทธิ หมายถึง ความสงบระงับจากอกุศล มุ่งหมายถึงความเป็นจริงของเจตสิก ๒ ประะเภท คือ กายปัสสัทธิ และ จิตตปัสสัทธิ ซึ่งเป็นเจตสิกที่ดีงามอีก ๑ คู่ที่เกิดร่วมกับจิตที่ดีงามทุกประเภท โดยที่กายปัสสัทธิ เป็นเจตสิกที่ทำให้เจตสิกที่เกิดร่วมด้วยสงบ และจิตตปัสสัทธิ เป็นเจตสิกที่ทำให้จิตที่เกิดร่วมด้วยสงบ ซึ่งแสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่ดีงามทั้ง ๒ ว่าเป็นธรรมที่ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เป็นอกุศลธรรม มีอุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน ไม่สงบ เป็นต้น อย่างสิ้นเชิง เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ดังนั้น ในขณะที่เป็นอกุศล จะไม่มีปัสสัทธิเกิดได้เลย ครับ

... ยินดีในกุศลของคุณ preechacupr และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ