...ว่า ทำไมต้องเกิด จักขุวิญญาณ 2 ดวง โสต 2 ชิวหา 2 ฆานะ 2 กาย 2 ทำไมต้องสองดวงด้วยคะ เพราะฟังแล้วไม่มีคำอธิบายจากท่าน อ.ตรงนี้ค่ะ
หมายเหตุ ฟังโสภณธรรม แผ่นที่ 3 ครั้งที่ 152 ค่ะ
กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ ได้แก่
จักขุวิญญาณ (กุศลวิบาก ๑ ดวง และอกุศลวิบาก ๑ ดวง) ทำทัสสนกิจ คือ กิจเห็น
โสตวิญญาณ (กุศลวิบาก ๑ และอกุศลวิบาก ๑) ทำสวนกิจ คือ กิจได้ยิน
ฆานวิญญาณ (กุศลวิบาก ๑ และอกุศลวิบาก ๑) ทำฆายนกิจ คือ กิจได้กลิ่น
ชิวหาวิญญาณ (กุศลวิบาก ๑ และอกุศลวิบาก ๑) ทำสายนกิจ คือ กิจลิ้มรส
กายวิญญาณ (กุศลวิบาก ๑ และอกุศลวิบาก ๑) ทำผุสสนกิจ คือ กิจรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส
เหตุผลที่มี สองดวง ไม่ใช่ดวงเดียว เพราะเหตุว่า ผลของกรรม ที่เป็นจิตเห็น จิตได้ยิน เป็นต้น ที่เป็นวิบาก ก็มีทั้งเห็นสิ่งที่ดี ที่เกิดจากกุศลกรรมให้ผล จึงทำให้เห็นสิ่งที่ดี และ ก็ต้องมีการเห็นสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งเป็นผลของอกุศลกรรมให้ผล จึงทำให้เห็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น ที่มีสองดวง ไม่ใช่ดวงเดียว เพราะการทำเหตุ ก็ต้องมีทั้งสองอย่าง คือ กุศลกรรม และ อกุศลกรรม
ดังนั้น เมื่อกุศลกรรมให้ผล ก็ทำให้เห็นสิ่งที่ดี ที่เป็นจักขุวิญญาณกุศลวิบาก คือ จิตเห็นที่เกิดจากกุศลกรรม และ จักขุวิญญาณอกุศลวิบาก จิตเห็นที่เกิดจากอกุศลกรรมที่ไม่ดี
ทางทวารอื่นๆ คือ ทางหู ที่เป็นโสตวิญญาณ จิตได้ยิน ก็มีสองดวง ตามเหตุผลที่กล่าวมาเช่นกัน คือ เพราะอาศัยเหตุ คือ กุศลกรรม และ อกุศลกรรม จึงเป็นเหตุให้เกิดโสตวิญญาณ จิตได้ยินสองดวง คือ โสตวิญญาณกุศลวิบาก ที่เป็นจิตได้ยินเสียงที่ดี และ โสตวิญญาณอกุศลวิบาก คือ จิตได้ยินเสียงที่ไม่ดี ทางจมูก ก็มีการได้กลิ่นที่ดี และ ไม่ดีสองดวง เพราะเกิดจากเหตุ คือ เหตุที่ดีที่เป็นกุศลกรรม และ เหตุที่ไม่ดีที่เป็นอกุศลกรรม ทางลิ้น คือ การรู้รสที่ดี และรู้รส ที่ไม่ดี อันเกิดจากเหตุที่ดี คือ กุศลกรรม และ เหตุที่ไม่ดี คือ อกุศลกรรม
ทางกาย คือ การรู้กระทบสัมผัสที่ดี ที่เป็นเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึงไหว และการรู้ กระทบสัมผัสที่ไม่ดี ที่มีสองอย่างด้วยเหตุที่ต่างกัน คือ กุศลกรรมที่เป็นเหตุที่ดี ก็ทำให้รู้กระทบสัมผัสที่ดี ถ้าอกุศลกรรมให้ผล เหตุไม่ดีก็เกิดกายวิญญาณอกุศลวิบาก รู้กระทบสัมผัสที่ไม่ดี
สรุปได้ว่า จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้กระทบสัมผัส มีอย่างละ 2 ดวง เพราะเหตุว่า มีเหตุ 2 อย่าง คือ กุศลกรรมให้ผล ทำให้เกิด กุศลวิบาก และ อกุศลกรรมให้ผลทำให้เกิด อกุศลวิบาก ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย รวมเป็นทวาร 5 อย่างละ 2 ดวง รวมเป็น 10 เรียกว่า ทวิปัญจวิญญาณ 10 ครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ
ถามเรื่องทวิปัญจวิญญาณ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นการกล่าวถึงสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจัจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ซึ่งถ้าไม่ได้ฟังไม่ได้ศึกษาพระธรรม จะไม่มีความเข้าใจถูกตามความเป็นจริงได้เลย เพราะถ้ากล่าวถึงชื่อแล้ว อาจจะงงได้ แต่เมื่อได้ยินได้ฟังเข้าใจแล้ว ชื่อมาทีหลัง ครับ
เพราะถ้ากล่าวถึง จิต ๑๐ ประเภทนี้ ก็คือ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย ที่เป็นผลของกุศลกรรม กับ ที่เป็นผลของอกุศลกรรม รวมกันแล้ว ก็เป็นจิต ๑๐ ดวง เป็นแต่ละหนึ่งๆ มีจริงๆ ในขณะนี้ มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่รู้เลยว่า เป็นธรรม แต่เมื่อได้ฟังได้ศึกษาแล้ว ก็จะเริ่มเข้าใจว่า เป็นธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา ไม่มีเราแทรกอยู่ในสภาพธรรมเหล่านั้นเลย ยิ่งเพิ่มพูนความมั่นคงในความเป็นจริง ของธรรมเพิ่มขึ้น ว่า ทุกขณะเป็นธรรม มีแต่ธรรมเท่านั้นจริงๆ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เวลาเกิดอย่างเดียว คือ กุศล อกุศล แต่มีสองดวงเพราะเกิดเพราะ กุศล อกุศลค่ะ
กราบขอบพระคุณคะ
ขออนุโมทนาครับ