ข้างห้องทำเสียงดังรบกวน จะวิปัสสนาอย่างไรดีครับ
โดย ชะอมทอดกรอบ  1 ธ.ค. 2555
หัวข้อหมายเลข 22110

ผมเป็นคนรักความสงบ ไม่ดูละคร ไม่ฟังเพลง ชอบอยู่ห้องเงียบๆ อ่านหนังสือ หรือทํางาน ทำการเรื่อยเปื่อย ทีนี้ปัญหาเกิดจากข้างห้อง ทำเสียงดังรบกวน พาใจเตลิดเปิดเปิงว้าวุ่นหงุดหงิดเลยทีเดียว ขอวิธีวิปัสสนาตามดูตามรู้ให้ใจไม่ยินดียินร้ายในเสียงทีครับ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 1 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความสงบ ต้องเป็นเรื่องของกุศลธรรม ขณะที่กุศลเกิดขึ้น เป็นไป ย่อมสงบจากอกุศล ชั่วขณะที่จิตเป็นกุศล แต่ละคน มีความประพฤติเป็นไป ตามการสะสม เราคงไม่สามารถไปห้ามความประพฤติเป็นไปของบุคคลอื่นได้ ที่สำคัญ คือรักษาใจตนเอง ไม่เดือดร้อนกับความประพฤติที่ไม่สมควรของบุคคลอื่น ให้อภัย เพราะ ได้เข้าใจว่า ตราบใดก็ตามที่ยังมีกิเลส ก็ย่อมไม่พ้นไปจากความประพฤติที่เป็นไป ทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง ที่เป็นไปกับด้วยอกุศล เมื่อเข้าใจอย่างนี้ ก็จะเห็นใจคนที่มีกิเลสด้วยกัน ไม่กระทำสิ่งใดที่เป็นไป เพื่อเบียดเบียนประทุษร้ายผู้อื่น

การที่จะเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมี กำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้ ก็จะต้องอาศัยเหตุ คือ การฟังพระธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริง บ่อยๆ เนืองๆ ไม่ขาดการฟังพระธรรม ซึ่งเมื่อฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ไปตามลำดับ กุศลก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น คล้อยตามความรู้ที่ค่อยๆ เจริญขึ้น มีความอดทน ไม่โกรธ เพราะได้เข้าใจว่า สภาพธรรมที่เกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แม้จะมีความประสงค์ที่จะไม่อยากได้ยินเสียงที่ไม่น่าฟัง ไม่อยากถูกรบกวน แต่ก็ไม่เป็นไปตามนั้น ก็เพราะทุกอย่าง มีเหตุปัจจัย จึงเกิดขึ้น ประโยชน์ก็คือ เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เมื่อความเข้าใจเกิดขึ้น เมื่อกุศลเกิดขึ้น ขณะนั้นก็ตรง ไม่เอนเอียงด้วยอำนาจของอกุศลธรรมใดๆ แล้วในขณะนั้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย paderm  วันที่ 1 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่น จะต้องเข้าใจความจริงครับว่า วิปัสสนา คือ อะไร ในขั้นการฟัง ให้ถูกต้องเสียก่อนว่า คือ อะไร

วิปัสสนา คือ ปัญญาที่รู้สภาพธรรมที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ ว่าเป็นแต่เพียงธรรมะไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นเครื่องกั้น ไม่ให้สามารถเจริญวิปัสสนาได้ คือ ความไม่มีปัญญา เพราะไม่มีการอบรมปัญญาขั้นการฟังที่ถูกต้องมานั่นเอง เพราะฉะนั้น เสียงดังรบกวน ไม่ใช่เป็นเครื่องกั้นการเกิดปัญญาในการเจริญวิปัสสนา เพราะตามที่กล่าวแล้วว่า วิปัสสนา คือปัญญาที่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งสภาพธรรมที่มีจริง คือสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ ทั้งที่เป็นนามธรรม คือ จิต เจตสิก และรูปธรรม ดังนั้น เสียงที่ได้ยิน ก็มีจริงเป็นธรรมะ ควรรู้ว่าไม่ใช่เรา อกุศล มี โทสะ ความไม่ชอบที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นแล้ว มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ปรากฏเช่นกัน ควรรู้ว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา

จะเห็นได้ว่า การเจริญวิปัสสนา จึงไม่ใช่การหาที่สงบ สงัด เพราะ สิ่งที่เป็นความสงบจริงๆ คือ สภาพจิต ที่สงบจากสภาพธรรมที่ไม่สงบ คือสงบจากอกุศลจิต ซึ่งจะทำให้สงบได้ คือ จะต้องมีปัญญา เพราะฉะนั้น การเจริญวิปัสสนา จึงเป็นการเจริญอบรมปัญญาในชีวิตประจำวัน ที่ไม่ผิดปกติ ไม่ไปหาสถานที่ เพราะ ทุกๆ ที่ และที่กำลังดำนินชีวิต เกิดกุศลบ้าง อกุศลบ้าง เห็น ได้ยิน เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นแต่เพียงธรรมะที่ปัญญาควรรู้ทั้งสิ้น ครับ

ดังนั้น การเจริญวิปัสสนาที่ถูกต้อง คืออาศัยการฟังพระธรรม ในแนวทางที่ถูกต้อง คือเป็นการเจริญสติในชีวิตประจำวัน ปัญญาเกิดรู้ความจริงในชีวิตประจำวัน เมื่ออบรม หนทางที่ถูกต้อง ปัญญาสามารถเกิดได้ ไม่ว่าในสถานที่ใด หรือสภาพจิตอะไรที่เกิดขึ้น กลับมาที่การฟังให้เข้าใจเป็นเบื้องต้นก่อน ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา


ความคิดเห็น 3    โดย nopwong  วันที่ 1 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 4    โดย kinder  วันที่ 1 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย นิรมิต  วันที่ 1 ธ.ค. 2555

ขอขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย ทำดีทูเดย์  วันที่ 2 ธ.ค. 2555

การเจริญสติปัฏฐาน เป็นการเจริญสติ ขณะนั้น ซึ่งก็มีรูปนามปรากฏอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเสียงดัง ทําให้เราไม่พอใจ จะเจริญเวทนาก็ได้ หรือเจริญจิตก็ได้ แต่สำหรับผมเอง จะเจริญจิตตานุปัสสนากรรมฐาน อารมณ์ที่ขุ่นมัว (โทสะ) ซึ่งมีกำลังแรงและปรากฏชัดที่สุด ซึ่งก็แล้วแต่พื้นฐานของแต่ละคนนะครับ

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย nong  วันที่ 2 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย Graabphra  วันที่ 3 ธ.ค. 2555

หากเป็นผู้มีพระคุณ หรือญาติพี่น้องเราทำแบบนี้ จะให้อภัยได้ไหมครับ ... เรารับวิบากทางหูจากผู้มีคุณแต่ปางก่อน ... อาจเป็นประโยชน์บ้างนะครับ ถ้าไม่ก็ขออภัยครับ

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย ผิน  วันที่ 3 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย chaweewanksyt  วันที่ 4 ธ.ค. 2555

อ่านกระทู้นี้แล้ว ได้ความคิดใหม่ คือ คำว่า เห็นใจ และเข้าใจผู้ที่ยังมีกิเลสเหมือนกัน (เหมือนเปิดของที่ปิดเลยค่ะ)

ขอบคุณและอนุโมทนา ... เราก็ขาดการฟังมาหลายวันเหมือนกัน

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย หลานตาจอน  วันที่ 4 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 8 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ