จงอยปากยุงที่จุ่มในมหาสมุทร เป็นอุปมาที่หมายความว่าอย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 11] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๒๓๓
บทว่า คมฺภีรา ความว่า มีที่ตั้งอันญาณของบุคคลอื่นหยั่งไม่ได้ ยกเว้นตถาคต เหมือนมหาสมุทรอันปลายจะงอยปากยุงหยั่งไม่ถึงฉะนั้น
พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะ เป็นสัจจะ ความจริงที่พระพุทธเจ้า ใช้เวลาบำเพ็ญบารมีมานับชาติไม่ถ้วน กว่าจะตรัสรู้ความจริง และถึงการดับกิเลสได้ เพราะฉะนั้นปัญญาของสัตว์โลกที่เป็นปุถุชน ก็เพียงเล็กน้อยมาก เปรียบเหมือนความลึกซึ้งของพระธรรม ที่เป็น มหาสมุทร ที่ลึกสุดประมาณเพียง จงอยปากยุงเล็กๆ จุ่มลงในมหาสมุทร ยากที่จะหยั่งถึงได้ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรเป็นผู้ประมาทในการศึกษาพระธรรม ว่าพระธรรมง่าย หรือสำคัญว่าเข้าใจแล้ว แต่ควรเป็นผู้ไม่เผิน แม้คำคำเดียวแม้แต่คำว่า ธรรม คำว่า ปฏิบัติ เป็นต้น ให้เข้าใจถูกต้อง ก็จะเป็นผู้ที่ละเอียด และ ได้สาระจากพระธรรมจริงๆ เพราะฉะนั้น พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ลึกซึ้ง ถึงขนาดไม่น้อมพระทัยที่จะไม่แสดงพระธรรม หลังจากที่ตรัสรู้ใหม่ ควรที่พุทธบริษัทจะไม่ละทิ้งโอกาส ในชาตินี้ ที่มีเวลาเหลือน้อย ในการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอย่างละเอียดรอบคอบต่อไป ครับ
เชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ ครับ
กว่าที่จะได้ทรงตรัสรู้ความจริง บำเพ็ญเพียร ทุกชาติ ด้วยพระบารมีนานา ๑๐ อย่าง เพื่อให้ถึงการที่สามารถเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีและปรากฏ เพราะฉะนั้น ธรรมะ ต้องลึกซึ้งมาก แม้แต่ว่า จะพูดถึงอะไรก็ตาม ให้คิดถึงว่า ผู้ฟังซึ่งเพียงฟัง เริ่มฟัง อุปมา ว่า "ปัญญา" นั้น เหมือนกับ จงอยปากยุง ที่จุ่มลงในมหาสมุทร คือพระธรรม เพราะฉะนั้น ไม่ประมาทเลย ว่าเรากำลังฟัง สิ่งซึ่งเราไม่รู้หรอก ถ้าไม่ได้ฟัง และ แม้แต่รู้ ก็รู้เผินๆ หรือว่า รู้คำ ก็อยากจะรู้คำ อยากจะเข้าใจคำ แต่ "ตัวธรรมะ" จริงๆ เดี๋ยวนี้ ไม่ได้เคยคิดว่า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของพระธรรมทั้งหมด ที่ทรงแสดง ๔๕ พรรษา เพื่อเข้าใจถูก เห็นถูก ในสิ่งที่มีตามปกติ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง อุปการะเกื้อกูลแก่ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง และเป็นสิ่งที่ยากอย่างยิ่ง สิ่งที่จะต้องฟังต้องศึกษาให้เข้าใจนั้น มีมากเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงทั้งหมด การเข้าใจธรรมก็ตามกำลังปัญญาของแต่ละบุคคล
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะทรงแสดงในส่วนใดก็ตาม ย่อมไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ โดยโวหารโดยพยัญชนะต่างๆ ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง อันเป็นธรรมที่ละเอียดยิ่ง ที่หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน ไม่ได้เลย สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง ถ้าเป็นผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาทพระธรรมว่าง่าย ศึกษาด้วยความตั้งใจ ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ พระธรรม แม้จะยาก แต่ก็ไม่เหลือวิสัยที่จะเข้าใจได้
สำคัญ คือ ไม่ขาดการฟัง ไม่ขาดการศึกษาพิจารณาไตร่ตรอง ไม่ว่างเว้นจากการฟังพระธรรม และมีจุดประสงค์ที่ถูกต้องในการศึกษาว่า เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง เรื่องการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม เป็นเรื่องที่ไกลมาก คงยังไม่ต้องพูดถึงในชาตินี้ แต่จะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนาน ในการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป เมื่อสะสมกุศลและอบรมเจริญปัญญาต่อไป เข้าใจแค่ไหน ก็แค่นั้น จะให้มีความเข้าใจมากๆ ในทันทีทันใด ย่อมเป็นไปไม่ได้ ครับ
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
เปรียบเหมือนขณะนี้ ที่เห็น ได้ยิน ที่จะรู้ความจริงของตัวธรรมจริงๆ ยาก ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ