อกุศลทั้งหลาย ชื่อว่า คนพาล. การคบหาคนพาลมีแต่จะพาไปสู่ความเสื่อม อย่างเช่นพระเจ้าอชาตศัตรู ซึ่งได้คบหากับคนพาลอย่างท่านพระเทวทัต จึงพาไปสู่อกุศลกรรมทั้งปวง ตายจากภพชาตินั้นแล้วก็ไปสู่นรก การคบคนพาลนำมาแต่ความทุกข์ ทั้งๆ ที่ท่านได้สะสมที่จะได้ถึงความเป็นพระโสดาบัน หากท่านได้คบบัณฑิตได้โอกาสฟังพระสัทธรรม.
สำหรับกุศลทั้งหลาย ชื่อว่า บัณฑิต. การได้เข้าใกล้บัณฑิตหรือสัตบุรุษ ได้ฟังธรรมเข้าใจ พิจารณาธรรมโดยแยบคาย ย่อมนำไปสู่การเจริญขึ้นของธรรม นำไปสู่การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม นำมาแต่ความสุข
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
ไม่ควรคบคนพาลควรคบบัณฑิต [จริยาปิฎก]
ขออนุโมทนาค่ะ ...
พาล คือ สภาพธรรมที่เป็นอกุศล พาลยิ่งกว่าพาล คือ ความเห็นผิด ความเห็นผิดเป็นอกุศลเจตสิก คือ ทิฏฐิ ซึ่งเป็นตอของวัฏฏะ มิจฉาทิฏฐิ มีโทษมาก พระพุทธองค์ตรัสว่า ไม่เคยเห็นโทษใดมากเท่ามิจฉาทิฏฐิ
ขออนุโมทนาครับ
ตัณหา มานะ ทิฎฐิ เครื่องร้อยรัด คล้องไว้ บางขณะเป็นพาล บางขณะเป็นบัณทิต
ขอบพระคุณสำหรับ
ข้อความเตือนใจค่ะ
กราบอนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"คบบัณฑิต นำมาซึ่งความเจริญทั้งปวง"
... แม้ของอันไร้ชีวิต ยังกลายเป็นของไม่น่าปรารถนา เพราะประกอบร่วมกับของอันไม่น่าปรารถนา คือ มะม่วงหวานเมื่อมีต้นสะเดาขมมาปลูกอยู่ใกล้ๆ ย่อมทำให้ผลมะม่วงมีรสขมไปด้วย การอยู่ร่วมหรือคบกับคนพาลก็เป็นเช่นนั้น นำมาซึ่ง อกุศลธรรมและความเสื่อมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเราคบบัณฑิต ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเห็นถูก (มีปัญญา) แนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และ ห้ามจากสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ กล่าวคือ ให้ออกจากอกุศล แล้วให้ตั้งมั่นอยู่ในกุศล ก็ย่อมทำให้เรามีความเจริญยิ่งขึ้นในกุศลธรรม แต่สิ่งที่ควรพิจารณา คือ ผู้มีปัญญาเท่านั้นจึงจะรู้ว่าใครเป็นพาลหรือบัณฑิต อุปมาเหมือนกับผู้มีตาดีทั้งสองข้าง ย่อมจะรู้ได้ว่าใครเป็นคนตาดีและใครเป็นคนตาบอด ดังนั้น ในชีวิตประจำวัน ควรอย่างยิ่งที่จะคบบัณฑิตผู้มีปัญญา ผู้เป็นกัลยาณมิตร สูงสุด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คบด้วยการฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ด้วยความเคารพและมีความจริงใจที่จะประพฤิตปฏิบัติตามด้วย การคบบัณฑิต กัลยาณมิตรผู้มีปัญญา ย่อมนำมาซึ่งความเจริญทั้งปวง ไม่นำความเสื่อมมาให้เลยแม้แต่น้อย.
...ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตาและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
คบบุคคลอื่นเพื่ออนุเคราะห์ตามกาล ไม่ควรคบกับอกุศลธรรมของเขา เกื้อกูลผู้มีความเห็นผิดให้เกิดความเห็นถูกตามกาล ไม่ยินดี ไม่คลุกคลี ไม่เสพคุ้นกับความเห็นผิดของเขา ไม่ละทิ้งโอกาสที่จะได้คบกับบัณฑิตบ่อยๆ เนืองๆ แล้วสุดท้ายก็อย่าลืมใจของเรา ที่ปัญญาจะต้องขัดเกลาความเป็นพาล เพราะทุกขณะที่อกุศลเกิด ขณะนั้น "พาล" ไม่ใช่อยู่ที่ใจของใครคนอื่นเลย อยู่ที่ใจของเรานั่นเอง และพาลก็มีมากมาย ควรเห็นถูกก่อนว่าพาลเป็นอกุศลธรรม
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด และขออนุโมทนาทุกๆ ท่านด้วยครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
สาธุ
ขออนุโมทนาฯ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ขออนุโมทนาครับ