1. ตอนบวชพระทำผ้าขาด ครองสามผืน (นุ่งอดิเรกจีวร) ได้สละผ้า กับพระใหม่ด้วยกัน แต่ท่านได้ใช้คำว่า อิมังจีวรัง..........ซึ่งมันเป็นเอกพจน์ ที่ถูกต้องต้องใช้ อิมานิ จีวรานิ.....แบบนี้จะถือว่าผมได้ผ้าคืนครบสามผืนไหมหนอ
2. ตอนบวชพระ ขณะหลับรู้สึกน้ำอสุจิเคลื่อน ขณะนั้นรู้สึกว่าองคชาติงออยู่จึงเอานิ้วไปเขี่ยองคชาติ แล้วฝันต่อเนื่องต่อจนสะดุ้งตื่น ผมไม่แน่ใจว่าตอนเอานิ้วไปเขี่ย มันฝันไปหรือเปล่า แต่คิดว่าฝัน เพราะตอนเขี่ยไม่รู้สึกว่านิ้วสัมผัสสบงเลย และถ้าสบงเปิด คราบอสุจิก็ปรากฏซ้อนตรงกัน บนจีบของสบงตลอดจีบได้อย่างไร (น่าจะมีเปื้อนจุดอื่นบ้าง)
3. ถ้าสึกออกมาแล้วบวชใหม่ อยากอยู่ปริวาส จะนับวันที่ปิดอาบัติอย่างไรเช่นปิดไว้ 5 วัน แล้วสึกอีก 2 เดือนบวชใหม่จะนับ 5 วันหรือ 2 เดือนครับ
๑. คำว่า อิมังจีวรัง หมายถึง จีวรนี้ ซึ่งมีใจความรวมถึงจีวรทั้งหมด แม้คำจะเป็นเอกพจน์ก็ใช้ได้
๒. ถ้าฝันไม่เป็นอาบัติครับ
๓. ถ้าปิดไว้ ๕ วัน ก็นับเฉพาะที่ปิดไว้ ๕ วันเท่านั้น ระยะเวลาที่ลาสิกขาแล้วไม่เกี่ยวกันครับ
ในพระไตรปิฏกมีแสดงไว้ว่า ในอนาคต ภิกษุที่บวชเข้ามาแล้วไม่รักษาตามพระธรรมวินัย มีโทษมากทำให้ไปเกิดอบายภูมิ ค่ะ
อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 2 โดย wannee.s
ในพระไตรปิฏกมีแสดงไว้ว่า ในอนาคต ภิกษุที่บวชเข้ามาแล้วไม่รักษาตามพระธรรมวินัย มีโทษมากทำให้ไปเกิดอบายภูมิ ค่ะ
มีโทษมากนี่ขยายความได้ไหมครับ แบบไหนถึงมีโทษมาก ขอบคุณครับอาจารย์
ผู้ที่จะบวชเป็นบรรพชิตได้นั้นต้องเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยน้อมไปที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิตด้วยใจจริง ซึ่งต้องสละอาคารบ้านเรือน สละวงศาคณาญาติ รวมถึงสละโภคสมบัติด้วย เมื่อบวชแล้วยังจะต้องศึกษาพระธรรมวินัย ศึกษาสิกขาบทข้อต่างๆ ที่พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ ถ้าปราศจากการศึกษาหรือไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ประพฤติไม่ดี ไม่มีความละอาย ล่วงละเมิดพระวินัยบัญญัติ ความเป็นบรรพชิตถ้ารักษาไม่ดี ไม่เอื้อเฟื้อในพระธรรมวินัย มีแต่จะทำให้เกิดโทษฝ่ายเดียว ถ้าทำผิดพระวินัยมีโทษมาก เมื่อมรณภาพจะเกิดในอบายภูมิ