ผมเป็นพระใหม่ครับ คือเวลาเย็นๆ หลังจากเรียนพระธรรม กับสวดมนต์แล้ว ว่างๆ ก่อนนอนผมก็เล่นเกม ประมาณ 10-20 นาทีเป็นเกมคอม มันจะอาบัติข้อไหนไหมเนีย แล้วเกมที่ผมเล่น เป็นเกมแนวยิงกันถือว่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไหมเนี่ย -.-
เอาหัวเรื่องใหญ่เลยนะ เล่นเกมอาบัติข้อไหนไหม
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมในเรื่องการประพฤติอนาจาร หมายถึง การประพฤติที่ไม่ดี ไม่สมควรไว้ครับ ซึ่งพระองค์แสดงว่า การทำที่ไม่ดี มีการเล่นหมากรุก เล่นการละเล่นต่างๆ เป็นการประพฤติที่อนาจารไม่ดี ไม่สมควร สามารถปรับอาบัติได้ตามความเหมาะสม คือเป็นอาบัติแน่นอนครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎก
[เล่มที่ 9] พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒- หน้าที่ 71
ประพฤติอนาจารต่างๆ
[๑๙๕] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง ใช้ให้ผู้อื่นปลูกบ้าง รดน้ำเอง...... เล่นหมากรุกแถวละแปดตาบ้าง แถวละสิบตาบ้าง เล่นหมากเก็บบ้าง เล่นชิงนางบ้าง เล่นหมากไหวบ้าง เล่นโยนห่วงบ้าง เล่นไม้หึ่งบ้าง เล่นฟาดให้เป็นรูปต่างๆ บ้าง เล่นสกาบ้าง เล่นเป่าใบไม้บ้าง เล่นไถน้อยๆ บ้าง เล่นหกคะเมนบ้าง เล่นไม้กังหันบ้าง เล่นตวงทรายด้วยใบไม้บ้าง เล่นรถน้อยๆ บ้าง เล่นธนูน้อยบ้าง เล่นเขียนทายบ้าง เล่นทายใจบ้าง เล่นเลียนคนพิการบ้าง
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงประพฤติอนาจารมีอย่างต่างๆ รูปใดประพฤติ พึงปรับอาบัติตามธรรม.
ส่วนการจะเป็นปาณาติบาต คือ การฆ่าสัตว์ต้องมีสัตว์จริงๆ ไม่ใช่ถูกฆ่าในเกม แต่ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นปาณาติบาต การเล่นเกมของพระภิกษุก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในเพศบรรพชิตครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอถามต่อหน่อย ๒ ข้อ ครับ
ข้อ ๑ แล้วเล่นหวยละ
ข้อ ๒ ตอนถูกแล้วรับเงิน ถือว่าเป็นการรับของเถื่อนของหนีภาษีหรือเปล่าเพราะถ้าเป็น ถูกเยอะเกิน ๕ มาสก (เคยมีคนคำนวณโดยเอาข้าวเปลือก ๒๐ เมล็ดไปให้ร้านทองชั่งตีราคาเท่าราคาทองปัจจุบันประมาณ ๗๐๐ บาท) มันจะเข้าค่ายเป็นปฐมปราชิกหรือเปล่า
(ถามด้วยใจบริสุทธิเอื้อเฟื้อครับ)
เรียนความเห็นที่ 2 ครับ
1. เล่นหวย ไม่สมควรกับเพศบรรพชิตอยู่แล้วครับ เพราะเพศบรรพชิตต้องขัดเกลา เล่นหวยเพื่อต้องการงินทอง นั่นก็ควรเป็นเพศคฤหัสถ์เพราะเพศบรรพชิต สละสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อกลับมาได้สิ่งนี้ครับ
2. ต้องมีไถยจิต จิตที่จะขโมยครับ จึงจะเป็นปาราชิก ถ้าของราคาเกิน ๕ มาสก แต่ที่สำคัญเล่นหวยก็ผิดตั้งแต่ต้นแล้วครับ สำหรับเพศบรรพชิตที่ต้องขัดเกลากิเลส ขออนุโมทนาครับ
ปาราชิกบทที่ ๒ ภิกษุถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการ ๕ คือ
ทรัพย์ที่ผู้อื่นหวงแหน ๑
รู้ว่าผู้อื่นหวงแหน ๑
ทรัพย์มีค่ามากได้ราคา ๕ มาสก หรือเกินกว่า ๕ มาสก ๑
จิตคิดลัก ๑
ทำให้เคลื่อนจากฐาน ๑
โปรดเอาคำว่าไถยจิตไปพิจารณาด้วยนะครับ
ขออนุโมทนาขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บุคคลผู้ที่มีอัธยาศัยจริงๆ ในการที่บวชเป็นบรรพชิต ย่อมสามารถที่จะละอาคารบ้านเรือน วงศาคณาญาติ ทรัพย์สมบัติ แล้วบวช ซึ่งเมื่อบวชแล้ว ก็มีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา น้อมประพฤติตามพระธรรมวินัย ขัดเกลากิเลสของตนเอง อย่างนี้ คือ ผู้ที่มีอัธยาศัยน้อมไปในการบวชจริงๆ และเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน แต่ถ้ายังมีพฤติกรรมเหมือนคฤหัสถ์ทุกประการ เช่น เล่นเกม เล่นหวย (ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน คฤหัสถ์บางท่าน ยังไม่เล่นเลย) เป็นต้น อย่างนี้ ไม่ใช่วิสัยของผู้ที่มีอัธยาศัยที่จะเป็นบรรพชิตที่แท้จริง และการกระทำดังกล่าวนั้น เป็นความประพฤติที่ไม่สมควร เป็นอาบัติ เป็นโทษแก่ตนเองอย่างเดียว เพราะจุดประสงค์ของการบวชเป็นบรรพชิต ในพระพุทธศาสนา นั้น คือ เพื่ออบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง เท่านั้น ถ้าไม่ได้บวชเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวนี้แล้ว ย่อมเป็นบุคคลผู้เสื่อมอย่างยิ่ง เสื่อมจากคุณความดีประการต่างๆ ครับ.
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เรียนความเห็นที่ 4 ครับ
[เล่มที่ 2] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 31
อาการ ๖ อย่าง
[๑๒๓] ปาราชิกาบัติ พึงมีแก่ภิกษุผู้ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยอาการ ๖ อย่าง คือ
มิใช่มีความสำคัญว่าเป็นของตน ๑
มิใช่ถือเอาด้วยวิสาสะ ๑
มิใช่ขอยืม ๑
ทรัพย์มีค่ามากได้ราคา ๕ มาสก หรือเกินกว่า ๕ มาสก ๑
ไถยจิตปรากฏขึ้น ๑
ภิกษุลูบคลำ ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติถุลลัจจัย ให้เคลื่อนจากฐาน ต้องอาบัติปาราชิก ๑
ถ้าผมเล่นคอมแล้วเข้ามาตั้งกระทู้ ถามเกี่ยวกับเรื่องธรรมะ อันนี้ถือว่าเป็นการละเล่นอย่างหนึ่งไหมครับ พระเล่นคอม เพื่อเข้ามาศึกษาธรรมะ
เรียนความเห็นที่ 7 ครับ
ถ้าเล่นคอม เข้ามาตั้งกระทู้โดยใช้สื่อโดยคอมไม่เป็นไรครับ เพราะเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จิตที่ประกอบด้วยเจตนาย่อมก่อให้เกิดกรรม จิตที่เป็นกุศล ที่เป็นอกุศล ย่อมให้ผลกรรรมที่แตกต่างกันออกไปตามเหตุปัจจัย ในเรื่อง พระเล่นเกม เป็นอาบัติไหม การเล่นเกมมิได้เป็นไปเพื่อการละคลายกิเลส แต่เป็นไปเพื่อการสะสมของกิเลส ความอยาก มิใช่การอบรมเจริญปัญญา เพื่อการละ คลาย จากกิเลส จึงมิสมควรอย่างยิ่งครับ
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
ขออนุโมทนาครับ