คำว่า “อารัมมณะ” เป็นคำหนึ่งในภาษาบาลี ซึ่งภาษาไทยใช้คำว่า อารมณ์ ไม่เหมือนกับความหมายที่เราเข้าใจ เพราะว่า คนไทยเราเอาภาษาบาลีมาใช้ แต่ใช้ไม่ตรงกับความหมายในพระพุทธศาสนา เวลาที่เราบอกว่า วันนี้อารมณ์ดี เพราะว่าเห็นดี ได้ยินดี ได้กลิ่นดี ลิ้มรสดี รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสดี คิดนึกเรื่องราวดีๆ ก็บอกว่า อารมณ์ดี แต่คำว่า อารัมณะต้องคู่กับคำว่า “จิต” เพราะว่าจิตเป็นสภาพรู้หรือธาตุรู้ เมื่อเกิดขึ้นต้องรู้ ไม่รู้ไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้น เมื่อจิตเป็นสภาพรู้ก็ต้องมีสิ่งที่ถูกจิตรู้ หรือว่าจิตกำลังรู้สิ่งใด สิ่งนั้นเป็นอารมณ์ เสียงในป่า เสียงนอกศาลา เสียงใดๆ ก็เกิดขึ้นได้ เมื่อมีการกระทบกันของของแข็ง แต่เสียงที่ไม่ปรากฏไม่ใช่ อารัมณะหรืออารมณ์ เพราะว่าขณะนั้นไม่มีจิตที่รู้อารมณ์หรือเสียงนั้น เสียงนั้นเกิดแล้วก็ดับไปๆ แต่ขณะใดก็ตาม เสียงปรากฏ หมายความว่า เสียงปรากฏกับสภาพรู้ที่กำลังได้ยินเสียง ขณะนี้มีจิตขณะหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นได้ยินเสียง เพราะฉะนั้น ก็จะต้องทราบการเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็วของสภาพธรรม แล้วก็รู้ว่าตัวจริงๆ ของธรรมแต่ละขณะนั้นมีอะไรบ้าง รู้อารมณ์ทางไหนบ้าง
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ