หนูมาแก้บนบวชชีพราหมณ์เป็นเวลา 7 วันค่ะ อยากสอบถามว่าชุดชั้นใน กางเกงในจำเป็นต้องสีขาวไหมค่ะ เห็นแม่ชีว่าถ้าสีอื่นศีลจะไม่ขาดหนูบวชจะได้ 2 วันแล้วค่ะ แต่ใช้ชั้นในไม่ใช่สีขาว
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การบวชชี ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนา เพราะคำว่า "ชี" ที่เข้าใจกันในสังคมไทย คือ อุบาสิกาผู้รักษาศีล ๘ แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่จะรักษาศีล ๘ ไม่จำเป็นต้องเป็น ชี ก็ได้ อุบาสก อุบาสิกา ผู้มีศรัทธาที่จะขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ก็รักษาศีล ๘ ได้ทั้งนั้น สำคัญ คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และ เป็นเพื่อขัดเกลากิเลสเท่านั้น ไม่ใช่เห็นว่า ศีล ๘ มากกว่าศีล ๕ ก็เลยรักษาโดยที่ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับอัธยาศัยของผู้นั้นจริงๆ ถึงแม้จะไม่ได้รักษาศีล ๘ แต่เป็นผู้รักษาศีล ๕ พร้อมทั้งเป็นผู้ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาด้วย ย่อมเป็นสิ่งที่ดีแล้วกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในคำสอนทางพระพุทธศาสนา จะมีคำว่า บวช ซึ่งมีรากศัพท์ภาษาบาลี ว่า ปวช แปลว่า เว้นทั่ว หรือ เว้นโดยประการทั้งปวง ซึ่งก็คือ เว้นจากความติดข้องยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เว้นจากอกุศลธรรมทุกประการ เพราะฉะนั้นแล้ว การบวช จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสทั้งสิ้น เพราะการบวช เมื่อกล่าวกว้างๆ แล้ว มี ๒ อย่าง คือ บวชโดยถือเพศ เช่น บวช เป็นพระภิกษุ สามเณร ซึ่งเป็นเพศบรรพชิต และ บวชด้วยข้อปฏิบัติ กล่าวคือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บวชด้วยการถือเพศ แต่ก็มีความจริงใจที่จะศึกษาและน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ก้าวออกจากอกุศลทุกประการ ก็ชื่อว่า บวช ด้วยเช่นเดียวกัน แต่เป็นการบวช ด้วยข้อปฏิบัติ นั่นเอง ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ ครับ
ความเข้าใจเรื่องการบวช [การบวชด้วยเพศ-การบวชด้วยข้อปฏิบัติ]
การบวชชีพราหมณ์
เรื่อง สีขาวหมด สีเขียวหมด มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก ที่มีพราหมณ์ผู้หนึ่ง ประดับทุกสิ่ง เครื่องตกแต่งร่าย รถ และ ทุกอย่าง เป็นสีขาว วนรอบเมือง โดยเข้าใจว่า สีขาวทั้งหมด เป็นมงคล นำมาซึ่งสิ่งที่ดี และ สีเขียวหมด ก็มีในส่วนของเจ้าลิจฉวี ที่แต่งกาย เป็นสีเขียวหมด ซึ่ง โดยมาก สัตว์โลกก็ยึดถือ ในสี ที่ถือว่าเป็นมงคลซึ่ง ท่านอาจารย์สุจินต์ ก็นำพระสูตร ที่ เรื่องสีขาวหมด มาอธิบายให้เข้าใจกัน
ซึ่ง สีขาว ไม่ใช่ทำให้สัตว์บริสุทธ์ เกิด สิ่งที่ดี แต่ คุณความดี โดยเฉพาะ กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่เป็นการเจริญอริยมรรค เป็น สิ่งที่จะทำให้สัตว์ บริสุทธิ์จากกิเลส ครับ
ขอเชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ ครับ
นี้คือความต่างกัน ซึ่งเกิดจากเพียงการเห็นก็ทำให้เกิดความเห็นผิด ความเข้าใจหนทางปฏิบัติผิด เพราะคิดว่าสีขาวจะเป็นมงคล ทำให้เป็นผู้ที่บริสุทธิ์หรือหมดกิเลสได้ แต่ความจริงนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสว่า ที่จริงยานนั้นเป็นของลามก เลว เพราะว่าทำให้คนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นยานประเสริฐ เพราะฉะนั้น การที่จะรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง จึงไม่เกี่ยวกับเรื่องสีของเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องประดับตกแต่ง แต่ว่า เมื่อใดที่สติปัญญาเกิด ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จึงชื่อว่ายานนั้นมีในผู้นั้นที่จะนำไปสู่การดับกิเลสได้
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ
สีขาวกับอริยมรรค [พราหมณสูตร]
สีขาวของเครื่องนุ่งห่มจะนำไปสู่การดับกิเลสได้ไหม
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความบริสุทธิ์ ไม่ใช่อยู่ที่เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม แต่อยู่ที่สภาพจิตที่ดีงาม เป็นกุศล ประกอบด้วยปัญญาที่เข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง จึงต้องตั้งต้นที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ มิฉะนั้นแล้ว ผิดทั้งหมด เป็นการทำอะไรตามๆ กันด้วยความไม่รู้ ด้วยความติดข้องต้องการ
จุดประสงค์ของการรักษาศีล ๘ เพื่อประโยชน์แก่การขัดเกลากิเลสของตนเอง ไม่ใช่เห็นว่า ศีล ๘ มากกว่าศีล ๕ ก็รักษา โดยที่ไม่มีความเข้าใจอะไร ไม่ได้มุ่งที่จะขัดเกลากิเลสเลย อย่างนี้ย่อมไม่ถูกต้อง เมื่อเป็นผู้มีความตั้งใจว่าจะเป็นผู้รักษาศีล ๘ แล้ว ก็จะต้องน้อมที่จะรักษาด้วย ถ้าไม่สามารถรักษาศีล ๘ ได้ ก็พึงเป็นผู้รักษาศีล ๕ พร้อมทั้งมีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาตามที่คฤหัสถ์จะพึงกระทำได้ อย่างนี้ ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ดีกว่า ไปกระทำอะไรด้วยความไม่รู้หรือด้วยความเข้าใจผิด ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
อยากทราบว่าการบวชชีพราหมณ์ ทำไมนิยมบวชกัน จำนวนวันเลข 1 3 5 7 9 ค่ะ. ไม่เข้าใจว่าบวช เลขคู่ได้ไหม อันไหนดีคะ
เรียนความเห็นที่ 4
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้มาก่อน เป็นความจริงที่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุและด้วยผล เป็นความจริงที่ประเสริฐยิ่ง ไม่ใช่การคิดขึ้นมาเองหรือเชื่อตามๆ กัน เมื่อศึกษาในคำสอนคือพระธรรม ก็จะได้ทราบว่าความประพฤติทางกาย วาจา ใจ ที่จะงดงาม ทำให้ชีวิตเจริญขึ้น เกิดได้จากความเข้าใจถูกเห็นถูกในเหตุและผล เช่น ความเข้าใจเรื่องกรรมและผลของกรรม การรู้ว่าสิ่งใดเป็นอกุศลมีโทษอย่างไร สิ่งใดเป็นกุศลมีคุณประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร และการจะละบาปอกุศลได้หมดสิ้นเพราะเหตุใด หนทางที่จะปลอดภัยทั้งชาตินี้ และชาติต่อไป จนถึงหลุดพ้นจากภัยในสังสารวัฎฎ์ ก็ทรงแสดงไว้อย่างครบถ้วน ฯลฯ
ครั้งพุทธกาลผู้ที่สามารถขัดเกลากิเลส ถึงความเป็นอริยบุคคล ถึงความปลอดภัยไม่ต้องทุกข์อีกเลย เพราะรู้แจ้งในคำที่พระพุทธองค์ทรงแสดงในเพศฆาราวาส มีมากมายทั้งชาย หญิง โดยไม่ต้องไปบวชเป็นภิกษุ
ดังนั้นในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่มีเรื่องการบวชชีพราหมณ์ ที่สมัยนี้นิยมทำตามๆกัน หรือการกระทำในรูปแบบอื่นใดที่เป็นไปด้วยความไม่รู้ ในเหตุและผล ไม่ประกอบด้วยปัญญา เป็นการเชื่อตามคำที่บอกเล่ากันมา ทั้งเรื่องตัวเลข ดวงดาว หรือฤกษ์ยาม การทำสิ่งที่ไม่ใช่ชีวิตปกติ เบียดเบียนตนเอง เดือดร้อนต่อผู้อื่น ไม่ใช่คำสอนในพุทธศาสนา
ชีวิตที่เป็นปกติ ทำหน้าที่การงาน ดูแลครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ก็สามารถศึกษาพระธรรมได้ค่ะ เมื่อเกิดความเข้าใจ ก็จะเป็นเหตุให้ชีวิตเจริญขึ้น โดยไม่ต้องไปบวชชีพรามณ์ตามคำชักชวนของผูัไม่รู้อีกเลย
สนใจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
ฆราวาสธรรม 4
ฆราวาสธรรมปัญหา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ