ทนความชั่วร้ายของบุคคลอื่นด้วยความเบิกบานใจ มีความเมตตาในผู้นั้น ระลึกถึงความดีของเขา ให้อภัยและสงสารที่ตัวเขานั่นเองจะได้รับผลกรรมที่เขากระทำนั้น สัตว์แสดงความไม่ดีออกมาตรงๆ แต่คนเรามีการซ่อนเร้นปกปิด คิดลึก แสร้งทำเป็นไม่รู้ จิตไม่ผ่องใสใครจะรู้ แต่เมื่อมีสติก็จะรู้ได้ว่าเป็นกิเลสซึ่งตนเองเท่านั้นที่รู้ได้และสอนใจตนเอง มิฉะนั้น แล้วกิเลสนั้นก็จะสะสมเป็นอุปนิสัยหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่โกรธ เกลียด ผู้ที่ทำไม่ดีต่อบ้านเมือง ก็ควรน้อม พิจารณาว่า เขาทำกรรมใดไว้จะดี หรือเลว เขาต้องได้รับผลของกรรมนั้น ไม่ช้า ก็เร็ว จึงควรมีเมตตาต่อผู้นั้น เพราะถ้ากรรมชั่วที่เขาทำให้ผล เขาย่อมเป็นผู้ที่น่าสงสารยิ่ง
ขออนุโมทนาคุณ pornchai ค่ะ.......บังเอิญดิฉันได้ส่งธรรมทัศนะบทนี้ไปให้เพื่อน และพร้อมๆ กันนี้เองเขาก็พึ่งได้รับเมล์เกี่ยวกับผู้ทำไม่ดีต่อบ้านเมือง ทำให้เขาโกรธมากแต่บอกว่าธรรมทัศนะนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้รู้จักการมี "เมตตา" ........... ดิฉันจะขอถือโอกาสส่งความคิดเห็นของคุณ pornchai ไปให้เขาด้วยค่ะ
แต่ การเมตตา ต่อผู้ทำไม่ดีต่อบ้านเมืองนั้น คงไม่ใช่นิ่งดูดาย ให้เขา ทำไม่ดีต่อบ้านเมืองต่อไป เราควรจะต้อง ศึกษาข้อมูลจากทุกด้าน เพราะสำหรับ พวกนี้แล้ว เขาจะไม่มีหิริโอตตัปปะเลยต่อ การผิดศีล 5 โดยเฉพาะ ข้อมุสา เพราะผู้ที่พูดโกหกทั้งที่รู้อยู่ ย่อมทำความชั่วได้ทุกอย่าง เขาจะควบคุมสื่อต่างๆ โดยเฉพาะ สื่อโทรทัศน์ ให้ร่วมโกหกกับเขาด้วย ดังนั้นเราควรกระทำตามพระราชดำรัส คือสนับสนุนคนดี ให้ได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจได้
โทสะเกิดเมื่อใด จิตเศร้าหมองทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจสะสมความโกรธเกลียดมากเข้า กลายเป็นพยาบาทผู้ที่เดือดร้อนจากการกระทำของผู้อื่นจนเกิดโทสะพยาบาทนั้นมิใช่ใครอื่นเลยผู้ที่ถูกโทสะครอบงำนั่นเองที่เดือดร้อน ทั้งขณะนี้และภายหน้า
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ