พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 599
๓. โคธชาดก
เขารักก็รักมั่ง เขาชังก็ชังตอบ
[๖๓๑] พึงอ่อนน้อม ต่อผู้ที่อ่อนน้อม พึงคบ ผู้ที่เขาพอใจจะคบด้วย พึงทำกิจ แก่ผู้ที่ช่วยทำกิจ ไม่พึงทำความเจริญ ให้แก่ผู้ที่ใคร่ความเสื่อม อนึ่ง ไม่พึงคบหาสมาคม กับผู้ที่เขาไม่พอใจจะคบหาสมาคมด้วย.
[๖๓๒] พึงละทิ้ง ผู้ที่เขาละทิ้ง ไม่พึงทำความสิเนหา ในผู้เลิกลากัน ไม่พึงสมาคม กับผู้มีจิตคิดออกห่าง นกรู้ว่าต้นไม้มีผลหมดแล้ว ย่อมบินไปสู่ต้นอื่นที่เต็มไปด้วยผล ฉันใด คนก็ฉันนั้น รู้ว่าเขาหมดความอาลัยแล้ว ก็ควรจะเลือกหาคนอื่นที่เขาสมัครรักใคร่ เพราะว่าโลกกว้างใหญ่พอ
ขออนุโมทนาคุณไตรสรณคมน์ ข้อความนี้ดีมาก ชอบมากเลยค่ะ และชื่นชมคำตอบของคุณไตรสรณคมน์ ด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ พระมเหสี กล่าวคาถาที่กล่าวมาในกระทู้ไว้ เพื่อตัดพ้อพระราชา ที่ไม่เห็นคุณความดีของพระมเหสีเลยที่เคยมีอุปการะกับพระราชา พระราชาไม่สนใจพระมเหสี ไม่ให้สิ่งใดกับมเหสี มเหสีทรงน้อยใจ จึงบอกเรื่องนั้นกับพระโพธิสัตว์ พระ-โพธิสัตว์จึงสอนให้มเหสี เรียนคาถานี้ จำเอาไว้ แล้วก็กล่าวในที่ประชุม พระมเหสีจึงกล่าวคาถานี้ และตัดโทษของพระราชาที่ไม่เห็นถึงบุญคุณของพระมเหสี ในที่ประชุมและกล่าวคาถาในกระทู้ ว่าคนที่ไม่รักเราหรือไม่รู้จักบุญคุณ ก็ไม่ควรคบคนนั้น เมื่อพระราชาฟังดังนั้น ก็ระลึกถึงคุณของพระมเหสีได้ จึงมอบความเป็นใหญ่และดูแลพระมเหสีเป็นอย่างดีครับ
ขออนุโมทนาคุณไตรสรณคมณ์ มา ณ ที่นี้ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เรื่อง การไม่ละทิ้งสหาย แม้ด้วยเหตุอะไรก็ตาม
[เล่มที่ 59] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้าที่ 627
มหาสุวราชชาดก
ว่าด้วยสหายย่อมไม่ละทิ้งสหาย
[๑๒๒๖] เมื่อใด ต้นไม้มีผลบริบูรณ์ เมื่อนั้น ฝูง วิหคทั้งหลาย ย่อมพากันมามั่วสุมบริโภคผลไม้ ต้นนั้น แต่โดยรู้ว่าต้นไม้สิ้นแล้ว ผลวายแล้ว ฝูงวิหคทั้งหลาย ก็พากันจากต้นไม้นั้นบินไปสู่ ทิศน้อยทิศใหญ่. [๑๒๒๗] ดูก่อนนกแขกเต้า ผู้มีจะงอยปากแดง ท่านจงไปยังที่ที่ควรไปเถิด อย่าได้มาตายเสีย เลย เหตุไรท่านจึงซบเซาอยู่ที่ต้นไม้แห้ง ดูก่อน นกแขกเต้า ผู้มีขนเขียวดุจไพรสณฑ์ในฤดูฝน เชิญเถิด ขอท่านจงบอกเรื่องนั้น เหตุไรท่าน จึงทิ้งต้นไม้แห้งไม่ได้
(นกแขกเต้ากล่าวว่า) ข้าแต่พระยาหงส์ ชนเหล่าใดแลเป็น เพื่อนของพวกเพื่อน ในคราวร่วมสุข ทุกข์ จน ตลอดชีวิต ชนเหล่านั้นเป็นสัตบุรุษ ระลึกถึง ธรรมของสัตบุรุษอยู่ ย่อมละทิ้งเพื่อนผู้สิ้น ทรัพย์หรือยังไม่สิ้นทรัพย์ไปไม่ได้เลย
[๑๒๒๙] ข้าแต่พญาหงส์ เราก็เป็นผู้หนึ่งใน บรรดาสัตบุรุษ ต้นไม้นี้เป็นทั้งญาติเป็นทิ้ง เพื่อนของเรา เราต้องการเพียงเพื่อเป็นอยู่ จึง ไม่อาจละทิ้งต้นไม้นั้นไปได้ ก็การที่จะละทิ้ง ไปเพราะได้ทราบว่า ต้นไม้นี้สิ้นผลแล้ว ดังนี้ นี่ไม่ยุติธรรม
[๑๒๓๐] ความเป็นเพื่อน ความไมตรี ความสนิท สนมกัน ท่านได้ทำไว้เป็นพยานดีแล้ว ถ้าท่าน ชอบใจธรรมนั้น ท่านก็เป็นผู้ควรที่วิญญูชน ทั้งหลายพึงสรรเสริญ
[๑๒๓๑] ดูก่อนพญานกแขกเต้า ผู้ชาติวิหคมีปีก เป็นยาน มีคอโค้งเป็นสง่า เรานั้นจะให้พรแก่ ท่าน ท่านจงเลือกเอาพร ตามที่ใจปรารถนา เถิด
[๑๒๓๒ ] ข้าแต่พญาหงส์ ถ้าท่านจะให้พรแก่ ข้าพเจ้าไซร้ ก็ขอให้ต้นไม้นี้พึงได้มีอายุต่อไป ต้นไม้นั้นจงมีกิ่ง มีผลงอกงามดี มีผล มีรส หวานเหมือนน้ำผึ้ง ตั้งอยู่อย่างสง่างามเถิด
[๑๒๓๓] ดูก่อนสหาย ท่านจงดูต้นไม้นั้น ซึ่งมี ผลมากมาย ขอให้ท่านจงอยู่ร่วมกับต้นมะเดื่อ ของท่าน ขอให้ต้นมะเดื่อนั้นจงมีกิ่งก้าน มีผล งอกงามดี มีผลมีรสหวานเหมือนน้ำผึ้ง ตั้งอยู่ อย่างสง่างามเถิด
[๑๒๓๓] ข้าแต่ท้าวสักกะ ขอให้พระองค์ทรง พระเจริญสุข พร้อมกับพระญาติทั้งปวง เหมือน ข้าพระบาท มีความสุขเพราะได้เห็นต้นไม้ ผลิตผลในวันนี้ ฉะนั้นเถิด
[๑๒๓๔] ท้าวสักกเทวราชประทานพรแก่พญานกแขกเต้า ทำต้นไม้ให้มีผลแล้ว พาพระมเหสีเสด็จกลับเทพนันทนวัน
จบ มหาสุวราชชาดกที่ ๓
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา ครับ
ขออนุโมทนาครับ
น่าสนใจและกระตุ้นเตือนมาก
ขออนุโมทนาคุณไตรสรณคมน์ และคุณแล้วเจอกันค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ