วิถีจิตเกิดขึ้นที่เป็นกุศลชวนจิตหรืออกุศลชวนจิตจะเกิดซ้ำกัน ๗ ขณะ ถ้าเป็นชวนะดวงที่ ๑ สามารถจะให้ผลได้ในปัจจุบันชาติ คือชาติที่ทำกรรมนั้น ถ้าไม่ให้ผลในชาตินั้น ชวนะดวงที่ ๑ จะไม่ทำให้เกิดวิบากใน ชาติต่อๆ ไปได้เลย เพราะเหตุว่าชวนะดวงที่ ๑ มีกำลังอ่อนกว่าชวนะอื่นๆ เพราะฉะนั้น จึงสามารถจะให้ผลได้เฉพาะในปัจจุบันชาตินั้น เพราะฉะนั้น ชวนะดวงที่ ๑ จึงเป็นทิฏฐธัมมเวทนียกรรม คือกรรมที่สามารถจะให้ผลในปัจจุบันชาติ แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถจะรู้ได้จริงๆ ว่าขณะที่วิบากจิตนี้กำลังเกิดขึ้นเป็นผลของกรรมใด จะเป็นผลของทิฏฐธัมมเวทนียกรรมคือ ชวนจิตดวงที่ ๑ ในชาตินั้นหรือว่าจะเป็นผลของอดีตกรรมในชาติก่อน หรือว่าจะเป็นผลของกรรมที่ได้กระทำมาแล้วเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ เพราะเหตุว่า ชวนจิตที่เป็นกุศล ๗ ขณะ หรืออกุศล ๗ ขณะ มีกาลที่จะให้ผลต่างกันคือ ถ้าเป็นชวนจิตดวงที่ ๑ ให้ผลในปัจจุบันชาตินั้นทำให้วิบากเกิดขึ้นในปัจจุบันชาตินั้น ถ้าเป็นชวนะดวงที่ ๗ ก็ทำให้วิบากเกิดขึ้นในชาติต่อไป ถ้าเป็นชวนะดวงที่ ๒ ถึงดวงที่ ๖ ก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้วิบากจิตเกิดในชาติหลังๆ ต่อไปอีกได้ ตราบใดที่ยังมีสังสารวัฏฏ์
เพราะฉะนั้น แต่ละกรรมที่ได้กระทำสำเร็จลง ชวนจิตเกิด ๗ ครั้ง ๗ ครั้งกว่ากรรมหนึ่งๆ จะสำเร็จลงไป ที่กำลังได้ยินซึ่งดูเสมือนว่าทั้งเห็นด้วยทั้งได้ยินด้วย ความจริง มีภวังคจิตคั่น และมีมโนทวารวิถีจิตคั่น แล้วก็มีชวนะทางโสตทวารวิถีอีก ๗ ขณะ ในขณะที่ดูเหมือนทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน เพราะฉะนั้น เวลาที่เกิดความคิดหรือเจตนาที่จะทำกรรมหนึ่งกรรมใดเริ่มตั้งแต่คิด ชวนจิต ๗ ขณะ จะเกิดกี่ครั้ง ๗ ขณะ ๗ ขณะ ๗ ขณะ กี่ครั้งกว่ากรรมหนึ่งๆ จะสำเร็จลง ท่านผู้ฟังคิดจะถวายทาน กี่ขณะจิตที่คิดอย่างนั้น มีการนับได้ไหม ทางตาเห็น ๗ ขณะ ทางหู ๗ ขณะทางมโนทวาร ๗ ขณะ เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว เพียงชวนะ ๗ ขณะ โดยไม่นับจิตอื่นซึ่งเกิดก่อนและเกิดหลังชวนะนั้น และกว่าจะนึกว่า ถ้าจะถวายทานจะทำอาหารอะไร ชวนะอีกเท่าไร นับไม่ถ้วน
เพราะฉะนั้น เมื่อกรรมให้ผลและยังให้ผลไม่หมด ก็ยังมีเศษของกรรม ที่จะให้ผลต่อไปได้คือ กรรมที่ให้ผลแล้วแต่ยังให้ไม่หมด จึงชื่อว่า เศษของกรรม ถ้าท่านผู้ฟังคิดที่จะถวายทาน หรือให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อประโยชน์สุขแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด กุศลจิตเกิดการให้นั้นสำเร็จหรือยัง เพียงคิดว่าจะให้ ยังไม่สำเร็จ แต่กุศลจิตเกิดแล้ว แต่กรรมยังไม่สำเร็จ และกว่ากรรมจะสำเร็จ กุศลจิตที่เป็นชวนะจะเกิดอีก ๗ ขณะ ๗ ขณะ อีกกี่ครั้ง ก็นับไม่ได้
เพราะฉะนั้น ก็แล้วแต่ว่ากรรมใดจะให้ผลหมด หรือว่ายังให้ผลไม่หมดก็เป็นเศษของกรรมซึ่งยังสามารถให้ผลได้ ถ้าอ่านในอรรถกถา ก็จะมีเรื่องเศษของกรรมอยู่เสมอ กรรมนั้นให้ผลแล้วยังให้ไม่หมด เพราะฉะนั้น ต่อมาภายหลังก็เกิดเป็นอะไรๆ หรือว่ากรรมนั้นให้ผลแล้ว แต่ยังให้ไม่หมด เพราะฉะนั้น ในชาตินั้นจึงได้รับผลของกรรมนั้นทางตา หรือ ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย อย่างไรๆ
เคยปวดหัวตัวร้อนนิดๆ หน่อยๆ ไหม ต้องเป็นผลของอกุศลกรรม เป็นเศษของกรรมได้ไหม เพียงนิดหน่อย หกล้มนิดหนึ่ง มีบาดแผลเล็กน้อย แต่กรรมที่ทำครบองค์ไปแล้วสามารถทำให้เกิดในอบายภูมิได้ เกิดในนรกก็ได้ เกิดเป็นเปรตก็ได้ เป็นอสุรกายก็ได้ เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้ นั่นคืออกุศลกรรมที่สำเร็จครบองค์ให้ผล แต่ว่าการเจ็บปวดนิดหน่อย ปวดหัวตัวร้อน เจ็บป่วยเล็กน้อย ต้องเป็นผลของอกุศลเหมือนกัน จะเป็นเศษของกรรมได้ไหม ได้
ขอบคุณ และขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ