พระพุทธวจนะ โดยสภาพแห่งธรรมแล้ว เป็นสัจธรรม เป็นธรรมที่ลึกซึ้ง รู้ได้ยาก รู้ตามเห็นตามได้ยาก ไม่อาจจะรู้ได้ด้วยการตรึก ละเอียด เป็นธรรมอันบัณฑิตจะรู้ได้ เพราะสภาวะแห่งธรรม มีลักษณะดังกล่าว จึงจำต้องชี้แจง ให้เกิดความเข้าใจทั้ง โดย อรรถะ และ พยัญชนะ เพื่อให้สามารถหยั่งรู้ธรรมทั้งหลาย ตามความเป็นจริงใน เรื่องนั้นๆ
[เล่มที่ 11] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 102
อีกอย่างหนึ่ง สภาวะแห่งธรรมทั้งหลายนั้นๆ ที่ไม่วิปริต กล่าวคือ ที่บัณฑิตกำหนดเป็น มาตรฐาน ควรแทงตลอด คุณชาตนี้ทั้งหมด ผู้มีปัญญาทรามทั้งหลาย ซึ่งมิได้สั่งสมกุศลสมภารไว้ หยั่งรู้ได้ยาก และพึ่งไม่ได้ เหมือนมหาสมุทร สัตว์เล็กทั้งหลาย มีกระต่ายเป็นต้น พึ่งไม่ได้ เพราะเหตุนั้น สภาวธรรมที่มีเหตุหรือสภาวธรรมที่มีผลนั้นๆ จึงลึกซึ้ง
พระพุทธวจนะ โดยสภาพแห่งธรรมแล้ว เป็นสัจธรรม เป็นธรรมที่ลึกซึ้ง รู้ได้ยาก รู้ ตามเห็นตามได้ยาก แต่ไม่เกินวิสัยที่จะรู้ตามได้ แต่ต้องมีความอดทน ที่จะไม่ไปทำ อย่างอื่น ในเมื่อพระพุทธองค์ท่านแสดงหนทางแห่งความจริง ของชีวิตแก่เรา ปุถุชน ทั้งหลาย หากเราไม่มีความมั่นคงและอดทน ที่จะฟังและศึกษาและปฏิบัติตาม ถามว่า เรามีหนทางอื่นไหม? ก็ไม่มี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒ ที่ผ่านมา ดิฉันได้ฟังท่านอาจารย์สนทนา และตอบปัญหา ของผู้ร่วมสนทนาท่านหนึ่ง ในช่วงบ่าย ความเข้าใจของดิฉัน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่าน อาจารย์ได้เน้นให้ท่านผู้นั้น ได้เข้าใจว่า ตามความเป็นจริงแล้วไม่มีเรา มีแต่สภาพ ธรรม ที่ทำหน้าที่แต่ละอย่างๆ เท่านั้น แต่เรายังติดในความเป็นเรา และแกะไม่ออก ว่า จริงๆ แล้ว มีแต่สภาพธรรมเท่านั้น ดังนั้น การที่จะค่อยๆ ละ ความเป็นเรานั้น ไม่ ใช่สิ่งที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เหลือวิสัยที่จะเข้าใจได้ เพราะมีผู้รู้อย่างพระอรหันต์ทั้งหลาย
ท่านก็เคยเริ่มต้นจากศูนย์ เหมือนอย่างพวกเรามาแล้ว เพียงแต่ว่า ต้องอดทนที่จะฟัง และฟังให้เข้าใจ และหมั่นพิจารณาตาม ว่าที่ท่านแสดงนั้น จริงหรือไม่อย่างไร..... อีกอย่างหนึงก็คือ.... ให้ระวัง... เจ้าตัวโลภะ.. เพราะเจ้าตัวนี้นี่แหละ. . ที่จะทำให้เรา เขวอยู่เสมอค่ะ
อนุโมทนา ทุกท่านที่ได้มีโอกาสฟังพระธรรม ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ