เชิญคลิกอ่าน......
สะสมเหตุให้ปัญญาเจริญ คือ การฟังธรรม
พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนให้เกิดปัญญา เพราะว่า เป็นคำสอนของ ผู้ที่ตรัสรู้ เพราะฉะนั้น เมื่อผู้ฟังได้มีโอกาสฟัง ก็สามารถจะเข้าใจได้ว่า ขณะที่ ฟังมีความเห็นถูก มีความเข้าใจถูก ในสิ่งที่กำลังได้ยิน ได้ฟัง มากน้อยแค่ไหน หรือว่าขณะนั้น มีความต้องการอย่างอื่น คือ ต้องการที่จะทำ ต้องการที่จะเห็น ต้องการที่จะรู้ โดยที่ไม่ทราบเลยว่าขณะนั้น ไม่ใช่ปัญญา แต่เป็นโลภะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ปัญญา แบ่งออกเป็น 2 ก็ได้คือ โลกียปัญญาและโลกุตตรปัญญา โลกียปัญญาไม่ใช่ปัญญาทางโลกที่คิดได้ในสิ่งนั้น สิ่งนี้แต่โลกียปัญญาคือปัญญา ที่มีความเห็นถูกซึ่งขณะนั้นจิตก็เป็นกุศลด้วย แต่มีความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง เช่น เชื่อกรรมและผลของกรรม มีความเห็นถูกตามความเป็นจริงสภาพธรรมทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นต้น โลกุตตรปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดขึ้นโดยมีสภาพธรรมที่ไม่เกิดขึ้นและดับไปคือมี นิพพานเป็นอารมณ์ จึงเป็นโลกุตตรคือเหนือโลกเพราะโลกหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและ ดับไป แต่เมื่อมีพระนิพพานเป็นอารมณ์อันเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดดับจึงเหนือโลกเป็น โลกุตตรปัญญานั่นเองครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นปัญญาระดับไหนก็ตามต้องอาศัยการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจและเมื่อเข้าใจ ธรรมจะทำหน้าที่ปรุงแต่งให้ปัญญาเจริญขึ้น ทีละเล็กละน้อย โดยไม่มีตัวตนที่จะทำปัญญาให้เกิดแต่เป็นไปตามเหตุที่ได้อบรมและ สะสมให้ปัญญาเจริญขึ้นคือการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมครับ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
ปัญญาเป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ [ปัญญาสูตร]
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาค่ะ