จักขุวิญญาณที่กำลังเห็นสิ่งที่ปรากฏนั้นมีเจตสิกเกิดกับจักขุวิญญาณเพียง ๗ ดวง คือ
ผัสสเจตสิก ทำกิจกระทบรูปารมณ์ที่กระทบจักขุปสาท
เวทนาเจตสิก ทำกิจรู้สึกเฉยๆ เป็นอุเบกขาเวทนา (อทุกขมสุข)
สัญญาเจตสิก ทำกิจจำรูปารมณ์
เจตนาเจตสิก ทำกิจจงใจ ตั้งใจ ขวนขวาย กระตุ้นจิตและเจตสิกที่ เกิดร่วมกันให้สำเร็จกิจนั้นๆ
ชีวิตินทริยเจตสิก ทำกิจบำรุงเลี้ยงสหชาตธรรม คือ จิตและเจตสิกทั้งหลายให้ดำรงอยู่ในฐีติขณะ
เอกัคคตาเจตสิก ทำกิจตั้งมั่นในอารมณ์ที่ปรากฏ
มนสิการเจตสิก ทำกิจใส่ใจในรูปารมณ์นั้น
เจตสิก ๗ ดวงนี้ไม่ใช่เจตสิกที่เป็นเหตุ ๖
ฉะนั้น จักขุวิญญาณจึงเป็นอเหตุกจิต ส่วนโลภมูลจิตที่เกิดหลังจากจักขุวิญญาณนั้นมีเหตุเจตสิกเกิดร่วมด้วย ๒ เหตุ คือ มีโลภเจตสิก สภาพที่พอใจติดข้องในสิ่งที่ปรากฏเกิดร่วมด้วย และมีโมหเจตสิกเกิดร่วมด้วย โลภมูลจิตจึงเป็นสเหตุกจิต
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ