ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๗ * *
~ พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่ทำให้ผู้ฟังเกิดปัญญาเป็นของตนเอง ไม่ใช่ให้เกิดความไม่รู้เลย เพราะยิ่งฟังยิ่งศึกษาก็จะเข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมและเหตุผลของสภาพธรรมนั้นๆ ยิ่งขึ้น
~ ไม่มีใครสามารถที่จะบังคับบัญชาให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นได้เลย ใครทำเห็นในขณะนี้ให้เกิดขึ้นได้บ้าง ใครทำได้ยินในขณะนี้ให้เกิดขึ้นได้บ้าง ใครทำโกรธให้เกิดขึ้นได้บ้าง ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แม้แต่ปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกในขณะนี้ ก็ต้องเกิดขึ้นมาจากเหตุ คือ การอบรมจากการมีโอกาสได้ฟังคำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ จากการฟังพระธรรม ก็จะทำให้เห็นว่า สิ่งใดมีประโยชน์ สิ่งใดมีโทษแล้วสามารถที่จะมีความตั้งมั่นในการประพฤติที่ไม่ผิดจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ มีทางที่จะพิจารณาเพื่อที่จะให้เกิดขันติความอดทน และเป็นกุศลเพิ่มขึ้น ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำความเสียหาย ความเดือดร้อนให้ การกระทำของเขานั้นๆ ก็ดับไปในที่นั้นๆ ทำไมเราถึงจะยังโกรธต่อ ในเมื่อการกระทำนั้นหมดแล้ว จบแล้ว ดับแล้ว ขณะนี้เขาไม่ได้ทำอย่างนั้นแล้ว แต่ยังอุตส่าห์ไปคิดถึงเรื่องเก่าที่เขาทำ เพื่อที่จะให้ตนเองโกรธต่อไปอีก
~ ทรัพย์สมบัติมี เสื่อมได้ หมดไปได้ พินาศไปได้ พังไปได้เพราะความโกรธ ชื่อเสียงคุณความดีต่างๆ ซึ่งมี ก็อาจจะหมดสิ้นไปเพราะความโกรธ ในขณะที่แสดงกิริยาอาการที่ไม่สมควร หรือว่าการกระทำที่ไม่สมควร เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นประโยชน์ของขันติบารมี
~ ขณะใดที่อดกลั้น อดทน ไม่โกรธ ไม่ขุ่นเคือง ขณะนั้นให้ทราบว่า เพราะขันติ และถ้ามีบ่อยๆ ก็จะเป็นความไม่ยาก ไม่ลำบากต่อการที่จะกระทบกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจ หรือว่ากายวาจาที่ไม่ดีของคนอื่น
~ ไม่ว่าใครจะมีความประพฤติอย่างไรต่อท่าน หรือแม้แต่เพียงการที่จะนึกถึงคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น ซึ่งเคยได้ยินได้ฟังแม้นานมาแล้ว เป็นการที่จะทดสอบได้ว่า แม้ในขณะนั้นจิตที่คิดเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล ถ้าเป็นอกุศลยังโกรธ ขณะนั้นเป็นผู้ที่ไม่ได้เจริญขันติหรือความอดทน
~ คงจะไม่มีใครไม่เห็นคุณหรือประโยชน์ของขันติ หลังจากที่ได้ฟังเรื่องของขันติมาก ว่า ทุกอย่างที่เป็นกุศล จะเจริญได้ เพราะขันติ และโทษทั้งหลายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ใจจนถึงกาย วาจา เพราะไม่อดทน คือ อขันติ
~ คำอื่นที่ไม่ใช่ผรุสวาจา (คำหยาบ) แต่ว่าทำร้ายจิตใจคนอื่นมีไหม? ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดจริงๆ คำเย่อหยิ่ง มีไหม? คำพูดยกตน มีไหม?อาจจะไม่รู้สึกตัว ถ้าคำนั้นเป็นคำที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกไม่สบายใจ แม้จะไม่ใช่คำหยาบ แต่ขณะนั้น ก็จะรู้ได้ว่าคำนั้นทำร้ายคนอื่น
~ เพราะเหตุใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงเรื่องของอกุศลธรรม? เพราะเป็นสิ่งที่มีจริง ถ้าไม่ทรงแสดง จะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองมีอกุศลมากมายแค่ไหน
~ ถ้าคิดว่าเข้าใจธรรมแล้ว เข้าใจธรรมดีแล้ว ไม่ต้องฟังอีก นี่เป็นความสำคัญตน เป็นเครื่องเนิ่นช้า ไม่ทำให้ปัญญาเจริญขึ้น
~ ไม่ว่าจะเป็นใครมีหน้าที่อะไร ก็ไม่ควรลืมกิจที่ควรทำ คือ ขัดเกลากิเลสของตนเอง
~ ฟังแล้วฟังอีก การฟังครั้งแรกๆ กับการฟังครั้งหลังๆ ก็ต้องต่างกันแล้ว เพราะฉะนั้น จะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้
~ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน นอกบ้าน ประเทศชาติ หรือโลก ที่จะสงบได้ ก็เพราะคุณความดี
~ แต่ละหนึ่ง ถ้าเป็นคนดี ทุกอย่างไม่มีปัญหา แต่ถ้าแต่ละหนึ่งไม่ได้เป็นคนดี ปัญหามีแน่นอน
~ ถ้ามีปัญญาเห็นถูกตามความเป็นจริง ก็สามารถจะค่อยๆ ละคลายความติดข้องที่เป็นเหตุให้กระทำทุจริตกรรมได้ เพราะเห็นโทษ
~ แค่คิดว่าเขาไม่ดี ศัตรูคือกิเลสก็เกิดขึ้นในใจของตนเองแล้ว
~ คิดถึงความไม่ดีของคนอื่น เร็วกว่าคิดถึงความไม่ดีของตนเองหรือเปล่า? ต้องเป็นผู้ตรง
~ อะไรที่ไม่ดี เคยคิดที่จะละบ้างไหม แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความเพียรที่ถูกต้องแล้ว
~ เมื่อได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะเห็นความบริสุทธิ์ทุกคำที่ได้ทรงแสดงพระธรรมไว้ดีแล้ว
~ ไม่ต้องคอยวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ มีโอกาสเมื่อใดก็ควรที่จะได้ฟังพระธรรมเมื่อนั้น
~ เกิดมาแล้วต้องตาย ไม่ใช่ว่าคนอื่นตายแต่เราไม่ตาย เพราะตายด้วยกันทั้งนั้น สิ่งที่เป็นประโยชน์ก่อนตาย คือ สะสมความดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ
~ คนดี จะไม่อยู่ด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง ความริษยา แต่จะอยู่ด้วยคุณความดี
~ เมื่อสิ่งนั้นปรากฏ แต่ไม่รู้ ก็คือ อวิชชา แต่เมื่อสิ่งนั้น ปรากฏให้รู้ แล้วรู้ ก็เป็นปัญญา ไม่ใช่ไปรู้อื่น จะไปรู้อื่นได้อย่างไรในเมื่อไม่ได้เกิดขึ้นปรากฏ
~ เพราะมีความเห็นผิดอย่างเหนียวแน่น จึงทำให้ไม่กล้ามาฟังพระธรรมสนทนาธรรมเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตามความเป็นจริง
~ ไปสำนักปฏิบัติ หมดหนทางละกิเลส ผิดด้วย ทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย
~ แต่ละหนึ่งขณะของความเข้าใจถูก มีค่าประเสริฐยิ่งที่จะค่อยๆ นำไปสู่การรู้ยิ่งขึ้น การละยิ่งขึ้น
~ ไม่ได้ฟังพระธรรม ย่อมเสื่อมรอบ เสื่อมจากอะไร? เสื่อมจากความดีทั้งหมด เพราะความไม่ดีทั้งหมดมาจากความไม่รู้ความจริง เป็นเราทุกอย่างเพื่อเรา
~ โทษ (อกุศล) แม้เพียงเล็กน้อย ก็ไม่ทำให้ออกจากสังสารวัฏฏ์
* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๖
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
กราบนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบอนุโมทนาการแสดงพระธรรมเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามเป็นจริง
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
แต่ละหนึ่งขณะของความเข้าใจถูก มีค่าประเสริฐยิ่งที่จะค่อยๆ นำไปสู่การรู้ยิ่งขึ้น การละยิ่งขึ้น
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับ
ขออนุโมทนาครับ
กราบ อนุโมทนา ค่ะ ท่านอาจารย์
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาคะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
แม้ในขณะนั้นจิตที่คิดเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล ถ้าเป็นอกุศลยังโกรธ ขณะนั้นเป็นผู้ที่ไม่ได้เจริญขันติหรือความอดทน อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ