ศึกษาพระพุทธศาสนาโดยเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน คือ ถ้าสิ่งไหนที่ตัวเองไม่เข้าใจจะเห็นว่าหลักฐานต่างๆ นั้นไม่สามารถจะเป็นไปได้ เพราะเขาศึกษาธรรมโดยเอาตัวเองเป็น บรรทัดฐาน ไม่ได้ศึกษาธรรมโดยเอาพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเป็นบรรทัดฐาน
การที่บุคคลใดก็ตามมีความเห็นค้านที่ท่านอาจารย์บรรยาย ผมเห็นว่า แทนที่จะเข้าใจคนอื่นว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ ตัวเขาเองนั่นแหละเป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างมหันต์ และรู้สึกว่า จะชักจูงเข้ามาในทางพระพุทธศาสนาให้ถูกต้องได้ยากอย่างยิ่ง
ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม
ศึกษาธรรมโดยเอาตัวเองเป็น บรรทัดฐาน
เรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์
แนวทางเจริญวิปัสสนา เล่ม ๑๕๑
ศึกษาธรรมโดยเอาพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเป็นบรรทัดฐาน
ขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่าน ทุกประการค่ะ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
"..พระธรรมที่ทรงแสดง ทรงแสดงตรงตามเหตุผลว่า ปัญญาต้องตามลำดับจากปริยัติเป็นปัจจัยให้เกิดปฏิปัตติ จนเป็นปัจจัยให้เกิดปฎิเวธ
เคารพในพระธรรมหรือเปล่า เคารพในพระศาสดาหรือเปล่า
ความเคารพต้องมีเหตุผลด้วยความจริงใจในความถูกต้อง ไม่ใช่ชื่อว่าเคารพเพราะกราบไหว้ แม้ศึกษาแล้วก็ต้องตรงกับเหตุผลตามความเป็นจริง จึงจะถูกต้อง.."
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ถ้าไม่ศึกษาขั้นปริยัติก่อน ก็จะถึงการระลึกรู้ตรงความจริงไม่ได้ แล้วจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งโดยไม่รู้ความจริงก็ผิดเสมอ เพราะผิดมานานแสนนานนับชาติไม่ถ้วน แล้วก็ผิดต่อๆ ไป การเกิดตายไม่สิ้นสุด เพราะไม่รู้จักตัวเองตามความเป็นจริง ก็ไม่พ้นกิเลส กรรม วิบาก เข้าใจอย่างนี้ ก็เกิดจากการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ค่ะ
กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลธรรมทานทุกท่านค่ะ
ศึกษาเพิ่มเติมที่
เคารพในการศึกษาธรรมะ
พระธรรมที่ทรงแสดง ทรงแสดงตรงตามเหตุผลว่า ปัญญาต้องตามลำดับจากปริยัติเป็นปัจจัยให้เกิดปฏิปัตติ จนเป็นปัจจัยให้เกิดปฎิเวธ
ยินดีในกุศลจิตครับ