เมตตา
โดย Nuchareeya  6 ก.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 36831

คำถามจาก คุณพจน์ ชนะสูงเนิน

หมายเลขสมาชิก 4602

"เป็นคุณปู่เลี้ยงหลานอยู่บ้านจะเมตตาโดยประกอบด้วยปัญญาอย่างไร? มองยังไงก็ยังเป็นเราครับ"



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 6 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นเข้าใจความจริงว่ายังเป็นปุถุชน และเข้าใจความหมายประการหนึ่งของปุถุชน คือ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 673

[๒๓๙] ...คำว่า ปุถุชน ความว่า ชื่อว่า ปุถุชน เพราะอรรถว่าอะไร?

ชื่อว่า ปุถุชน เพราะอรรถว่า มีสักกายทิฏฐิที่ยังไม่ได้กำจัด หนาแน่น


เมื่อยังเป็นปุถุชนอยู่ จึงมีสักกายทิฏฐิ (ความยึดถือว่ามีเรา) หนาแน่น คือ มีมาก มากหาประมาณไม่ได้ จึงมีเราเป็นปกติ ยังยึดถือว่าเป็นเรา จึงไม่หลอกตัวเอง แต่ยอมรับความจริง ว่ายังมีเรามาก

ปัญญา ความเข้าใจถูก คืออะไร คือ เข้าใจถูกว่าไม่มีเรามีแต่ธรรม แต่ เพิ่งเริ่มฟัง ฟังไม่นาน ต่างจากการสะสมกิเลสมานับชาติไม่ถ้วน เมื่อปัญญายังน้อย ปัญญาขั้นการฟัง ก็ยังทำอะไรกิเลสไม่ได้ แต่เริ่มเห็นประโยชน์ เริ่มมีความเข้าใจถูกบ้างว่ามีแต่ธรรม แต่ละหนึ่ง เมื่อไหร่ที่คิดถูกว่ามีแต่ธรรมไม่ใช่เรา ก็เป็นปัญญา ขั้นการฟัง ก็ยังไม่พ้นจากความเป็นเรา ยังยึดถือได้อีกว่า เป็นเราที่เข้าใจถูก ความเป็นเราจึงติดตามไปตลอด

ดังนั้น คำถามที่ว่า จะเมตตาโดยประกอบด้วยปัญญาอย่างไร? มองยังไงก็ยังเป็นเราครับ"

จึงไม่ใช่เรื่องจะทำให้มีปัญญา แต่ปัญญาเป็นธรรม ธรรมเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ตามเหตุปัจจัยสมควรจึงจะเกิดขึ้น ไม่มีเราจะทำยังไง ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของธรรม อบรมเหตุ คือ ฟังพระธรรมต่อไปในการสะสมความเข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ปัญญาจึงไม่ได้เลือกตอนมีเมตตา รู้ว่าเมตตาไม่ใช่เรา แต่ปัญญาเกิดตอนไหนก็ได้ และ ไม่ได้เกิดง่ายๆ ในความเข้าใจไม่ใช่เรา แทนที่จะหาวิธีการที่จะให้เกิดปัญญา ก็ยอมรับความจริงที่ยังเป็นเรามาก และก็เบาสบายที่จะอบรมเหตุคือฟังพระธรรมต่อไป ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของธรรม เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

ขออนุโมทนา ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย Nuchareeya  วันที่ 7 ก.ย. 2564

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย Tathata  วันที่ 7 ก.ย. 2564

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย พจน์ ชนะสูงเนิน  วันที่ 7 ก.ย. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย khampan.a  วันที่ 7 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นเรา หนาแน่น เหนียวแน่นมาก เพราะสะสมความไม่รู้ ความติดข้อง และความเห็นผิดมานานมาก จึงไม่มีทางอื่นเลย นอกจากฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย การศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ก็เพื่อเข้าใจความจริง เข้าใจให้ถูกต้องในสิ่งที่เคยยึดถือว่าเป็นเรา เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน นั่นเอง เพราะมีแต่ธรรมเท่านั้น ที่เกิดขึ้นเป็นไป เป็นสิ่งที่มีจริง แต่ละหนึ่งๆ ซึ่งยากแสนยากที่จะเข้าใจ จึงไม่ขาดการฟังพระธรรม สะสมอบรมเจริญปัญญาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน โดยไม่หวัง เพราะอะไร? เพราะได้อบรมเจริญเหตุที่ถูกต้องแล้ว คือ การฟังพระธรรม ผล คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ก็จะค่อยๆ เกิดขึ้นค่อยๆ เจริญขึ้น ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 8 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ