สิ่งที่นำความสุขมาให้ [เรื่องมาร]
โดย มาณพน้อย  14 เม.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 8228

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ หน้าที่ 262 ข้อความจาก.. เรื่องมาร

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า .- เมื่อความต้องการเกิดขึ้น สหายทั้งหลาย นำความสุขมาให้

ความยินดีด้วยปัจจัยนอกนี้ๆ (ตามมีตามได้) นำความสุขมาให้

บุญนำความสุขมาให้ ในขณะสิ้นชีวิต

การละทุกข์ทั้งปวงเสียได้ นำความสุขมาให้

ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่มารดา นำความสุขมาให้ ในโลก

อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่บิดา นำความสุขมาให้ ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่สมณะ นำความสุขมาให้ ในโลก

อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่พราหมณ์ (ผู้ลอยบาป) นำความสุขมาให้ ศีล นำความสุขมาให้ตราบเท่าชรา ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้ว นำความสุขมาให้ การได้เฉพาะซึ่งปัญญา นำความสุขมาให้

การไม่ทำบาปทั้งหลาย นำความสุขมาให้.



ความคิดเห็น 1    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551

ข้อความในอรรถกถาแก้ไว้ว่า

(เมื่อความต้องการเกิดขึ้น สหายทั้งหลายนำความสุขมาให้)

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อตฺถมฺหิ ความว่า ก็ เมื่อกิจ มีการทำจีวรเป็นต้นก็ดี

มีการระงับอธิกรณ์เป็นต้นก็ดี บังเกิดขึ้นแก่บรรพชิตบ้าง. (หรือ) เมื่อกิจ มีกสิกรรมเป็นต้นก็ดี มีการถูกเหล่าชนผู้อาศัยร่วมด้วยฝักฝ่ายที่มีกำลังย่ำยีก็ดี บังเกิดขึ้นแก่คฤหัสถ์บ้าง, สหายเหล่าใด สามารถเพื่อยังกิจนั้นให้สำเร็จได้ หรือให้สงบได้,สหายผู้เห็นปานนั้น นำความสุขมาให้.


ความคิดเห็น 2    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551
(ความยินดีด้วยปัจจัยตามมีตามได้ นำความสุขมาให้)

สองบทว่า ตุฏฺี สุขา ความว่า ก็แม้คฤหัสถ์ทั้งหลาย ผู้ไม่สันโดษแล้วด้วยของแห่งตน จึงปรารภทุจริตกรรมมีการตัดที่ต่อเป็นต้น, แม้บรรพชิตทั้งหลายผู้ไม่สันโดษแล้ว ด้วยปัจจัยของตน จึงปรารภอเนสนา (การแสวงหาที่ไม่สมควร) มีประการต่างๆ , เพราะเหตุนี้ คฤหัสถ์และบรรพชิตทั้งสองนั้น จึงไม่ประสพความสุขเลย; เพราะฉะนั้น ความสันโดษ ด้วยของมีอยู่แห่งตนนอกนี้ๆ คือเล็กน้อยหรือมากมายนี่เอง นำความสุขมาให้.

ความคิดเห็น 3    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551

(บุญนำความสุขมาให้ ในขณะสิ้นชีวิต)

บทว่า ปุญฺญ ความว่า ก็บุญกรรมที่เริ่มทำไว้ตามอัธยาศัยนั่นแล นำความสุขมาให้ในมรณกาล.


ความคิดเห็น 4    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551

(การละทุกข์ทั้งปวงเสียได้ นำความสุขมาให้) บทว่า สพฺพสฺส ความว่า อนึ่ง พระอรหัต กล่าวคือการละวัฏฏทุกข์ทั้งสิ้นได้นั่นแล ชื่อว่านำความสุขมาให้ในโลกนี้.


ความคิดเห็น 5    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551
(ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่มารดา นำความสุขมาให้ ในโลก) (อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่บิดา นำ ความสุขมาให้) การปฏิบัติชอบในมารดา ชื่อว่า มตฺเตยฺยตา. การปฏิบัติชอบในบิดา ชื่อว่า เปตฺเตยฺยตา การทะนุบำรุงมารดาบิดานี่แล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วด้วยบทแม้ทั้งสอง. อันที่จริง มารดาและบิดาทราบว่า บุตรทั้งหลายไม่บำรุงแล้ว ย่อมฝังทรัพย์อันเป็นของมีอยู่แห่งตนเสียในแผ่นดินบ้าง ย่อมสละให้แก่ชนเหล่าอื่นบ้าง, อนึ่ง การนินทา ย่อมเป็นไป แก่บุตรเหล่านั้นว่า "คนพวกนี้ไม่ทะนุบำรุงมารดาบิดา" บุตรเหล่านั้น ย่อมบังเกิดแม้ในคูถนรก เพราะกายแตกทำลายไป; ส่วนบุตรเหล่าใดทะนุบำรุงมารดาบิดาโดยเคารพ, บุตรเหล่านั้น ย่อมได้รับทรัพย์อันเป็นของมีอยู่ของมารดาบิดาเหล่านั้น ทั้งย่อมได้ซึ่งการสรรเสริญ, เพราะร่างกายแตกทำลายไป ย่อมบังเกิดในสวรรค์; เพราะฉะนั้น แม้ทั้งสองข้อนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า "นำความสุขมาให้ " ดังนี้.

ความคิดเห็น 6    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551

(ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่สมณะ นำความสุขมาให้ ในโลก) (อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่พราหมณ์ นำความสุขมาให้) การปฏิบัติชอบในบรรพชิตทั้งหลาย ชื่อว่า สามญฺตา. การปฏิบัติชอบในพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้มีบาป-อันลอยเสียแล้วเท่านั้น ชื่อว่า พฺรหฺมญฺตา. ความเป็นคือการบำรุงพระพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธสาวกทั้งหลายเหล่านั้นด้วยปัจจัย ๔ พระผู้มีพระภาค-เจ้าได้ตรัสแล้วแม้ด้วยบททั้งสอง. แม้ข้อนี้ พระองค์ก็ตรัสว่า ชื่อว่านำความสุขมาให้ในโลก (นี้) .


ความคิดเห็น 7    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551
(ศีล นำความสุขมาให้ตราบเท่าชรา) บทว่า สีล เป็นต้น ความว่า แท้จริง เครื่องอลังการ (เครื่องประดับ) ทั้งหลาย

มีแก้วมณี ตุ้มหู และผ้าแดงเป็นต้น ย่อมงดงาม สำหรับชนผู้ตั้งอยู่แล้วในวัยนั้นๆ เท่านั้น, เครื่องอลังการของคนหนุ่ม จะงดงามในกาลแก่ หรือเครื่องอลังการของคนแก่จะงดงามในกาลหนุ่ม ก็หาไม่, อนึ่ง (เครื่องอลังการที่ตกแต่งไม่ถูกกาลนี้) ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายถ่ายเดียว เพราะให้การครหาบังเกิดขึ้นว่า คนนั้นชะรอยจะเป็นบ้าส่วนประเภทแห่งศีลมีศีล ๕ และศีล ๑๐ เป็นต้น ย่อมงดงามในทุกๆ วัย ทั้งแก่คนหนุ่มทั้งแก่คนแก่ทีเดียว, ย่อมนำมาแต่ความโสมนัสถ่ายเดียว เพราะให้ความสรรเสริญบังเกิดขึ้นว่า "โอ ท่านผู้นี้มีศีลหนอ " เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัส ว่า "สุข ยาว ชรา สีล (ศึล นำความสุขมาให้ตราบเท่าชรา) "


ความคิดเห็น 8    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551
(ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้ว นำความสุขมาให้) สองบทว่า สทฺธา ปติฏฺิตา ความว่า ศรัทธาที่เป็นโลกิยะและโลกุตตระแม้ทั้งสองอย่าง เป็นคุณชาติไม่หวั่นไหว ตั้งมั่นแล้วเทียว นำความสุขมาให้.

ความคิดเห็น 9    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551

(การได้เฉพาะซึ่งปัญญา นำความสุขมาให้) บาทพระคาถาว่า สุโข ปญฺาปฏิลาโภ ความว่า การได้เฉพาะปัญญาแม้ที่เป็นโลกิยะและโลกุตตระ นำความสุขมาให้.


ความคิดเห็น 10    โดย มาณพน้อย  วันที่ 14 เม.ย. 2551

(การไม่ทำบาปทั้งหลาย นำความสุขมาให้)

สองบทว่า ปาปาน อกรณ ความว่า อนึ่ง การไม่กระทำบาปทั้งหลายด้วยอำนาจแห่งเสตุฆาตะ (คืออริยมรรค) นำความสุขมาให้ใน โลกนี้.

* เสตุฆาตะ เป็นการงดเว้น เป็นการละ ของพระอริยเจ้าทั้งหลาย *


ความคิดเห็น 11    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 14 เม.ย. 2551
ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ

ความคิดเห็น 12    โดย devout  วันที่ 15 เม.ย. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะที่ได้อธิบายและแจกแจงโดยละเอียด


ความคิดเห็น 13    โดย suwit02  วันที่ 16 เม.ย. 2551
สาธุ