อยากทราบครับว่า สัตว์ขนาดเล็กมาก เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เกิดเพราะกรรมหรืออุตุฯ
ซึ่งคำถามจะรวมถึงอยากรู้ว่า สัตว์นั้นมีใจครองไหม คำถามอาจไม่เพื่อเข้าใจหลักธรรมะอะไร หรือกลัวจะผิดศีลอะไรนะครับ แต่ก็คิดว่ายังพอจะไม่ให้มีความเห็นผิด หรือสำคัญผิดได้ครับ และมีข้อสังเกตุอย่างไรที่จะแยกแยะประเภทของสัตว์ที่มีใจครอง ส่วนสัตว์ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและการเกิดอาศัยการสืบพันธุ์อันนี้คงไม่สงสัยครับ
อนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดที่จะต้องศึกษาไตร่ตรองในเหตุในผล ตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่มีชีวิต ทั้งหมด ตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นั้น ต้องเป็นเกิดจากกรรม เท่านั้น ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีจิต เจตสิก รูป จึงจะเรียกว่า สิ่งมีชีวิต เมื่อกล่าวโดยรวมแล้ว ได้แก่ สัตว์ที่เกิดในภพภูมิต่างๆ อย่างเช่น ผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ในสุคติภูมิ และ สัตว์ดิรัจฉาน ในอบายภูมิ เป็นต้น ล้วนเป็นสิ่งที่มีชีวิต เพราะเกิดขึ้นด้วยผลของกรรมการฆ่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เป็นปาณาติบาต แน่นอน เพราะองค์ของปาณาติบาต (การฆ่าสัตว์) มี ๕ ประการ คือ -สิ่งมีชีิวิต -รู้ว่า เป็นสิ่งมีชีวิต -มีจิตคิดจะฆ่า -มีความพยายามฆ่า -สัตว์ตายด้วยความพยายาม ดังกล่าวนั้น ถ้าครบทั้ง ๕ นี้เป็นปาณาติบาต เป็นการล่วงศีลข้อที่ ๑ เป็นอกุศลกรรมบถ ที่ครบองค์ สามารถนำเกิดในอบายภูมิ มี นรก เป็นต้น ได้ แต่ถ้าเป็นจำพวกแบ็คทีเรีย หรือ ไว้รัสต่างๆ ตามคำถามนั้น เกิดจากอุตุ ไม่ใช่เกิดจากกรรม ไม่ใช่สิ่งที่มีชีวิตแต่ประการใด การฆ่า การทำลายแบ็คทีเรีย หรือ ไว้รัส ต่างๆ จึงไม่ชื่อว่าเป็นการฆ่าสัตว์ เพราะสัตว์ ในที่นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ต้องเป็นสัตว์มีชีวิตที่เกิดจากกรรม มีจิต มีเจตสิก และรูป เท่านั้นแม้แต่สัตว์เล็กๆ เช่น มด ปลวก ยุง เป็นต้น ก็เป็นสัตว์มีชีวิต เพราะเกิดจากกรรมซึ่งเป็นสัตว์ในอบายภูมิ ถ้าฆ่าสัตว์เหล่านี้เมื่อใด ก็เป็นอกุศลกรรมบถ เมื่อนั้น ให้โทษแก่ผู้กระทำอกุศลกรรม โดยส่วนเดียว ครับ ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ การฆ่าจุลินทรีย์บาปหรือไม่ ถามว่าเชื้อโรคต่างๆ ในอบายภูมิ 4 คือ สัตว์ดิรัจฉาน ใช่หรือไม่ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
สาธุๆ พอจะมีข้อความจากพระไตรปิฎกขยายความมั้ยครับ
เรียนความเห็นที่ 2 ครับ
สำหรับข้อความในพระไตรปิฎกนั้น ไม่มีข้อความโดยตรงที่ระบุว่า เชื้อโรค แบคทีเรีย
เป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ทีเกิดจากอุตุ แต่เราก็พอเข้าใจได้ว่า เชื้อโรค นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ
กรรม เนื่องด้วย ไม่มี รูปชีวิตินทรีย์ และชีวิตินทรีย์เจตสิกครับ จึงไม่มีชีวิต ซึ่งข้อความ
ในพระไตรปิฎกแสดง คำว่า ปาณะ ว่าหมายถึงสิ่งที่มีชีวิตอันเกิดจากกรรม ที่มีรูปชีวิติน
ทรีย์ และชีวิตินทรีย์เจตสิกครับ เชิญอ่านครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 443
การยังสัตว์มีชีวิต ซึ่งมีอันจะต้องตกไปเป็นสภาพ โดยหน้าที่ของตน
นั่นเองให้ตกไป ชื่อว่า อติปาตะ ในบทว่า ปาณาติปาโต นี้ อธิบายว่า
ไม่ใช่ให้ค่อยๆ ตกไป แต่ให้พลันตกไป. อีกอย่างหนึ่ง การใช้ศาสตราเป็นต้น
ครอบงำให้ล่วงตกไป ชื่อว่า อติปาตะ. อธิบายว่า การฆ่าสัตว์มีชีวิต อนึ่ง
ขันธสันดานที่เรียกกันว่าสัตว์ ชื่อว่า ปาณะ ในคำว่า ปาณาติปาโต นี้ ขันธ-
สันดานนั้นโดยปรมัตถ์ ได้แก่รูปชีวิตินทรีย์ และอรูปชีวิตินทรีย์. แท้จริง
เมื่อรูปชีวิตินทรีย์ที่บุคคลให้พินาศแล้ว อรูปชีวิตินทรีย์นอกนี้ก็พินาศไป
เพราะอรูปชีวิตินทรีย์ เนื่องกับรูปชีวิตินทรีย์นั้น. เจตนาคิดจะฆ่าของผู้มีความ
สำคัญในสัตว์มีชีวิตนั้น ว่าเป็นสัตว์มีชีวิต ที่ยังความพยายาม อันเข้าไปตัด
ขาดชีวิตินทรีย์ให้ตั้งขึ้นเป็นไปแล้ว ทางกายทวาร และวจีทวาร ทวารใดทวาร
หนึ่งชื่อว่าปาณาติบาต.
สาธุๆ ขอบคุณครับ
เรียนถามวิทยากร
ที่ว่า พวกนี้เกิดจากอุตุ มีวินิจฉัยอย่างไรครับ
ที่เราว่าเค้าไม่มีจิต มีวินิจฉัยอย่างไรครับ
สาธุๆ ขอบพระคุณครับผม
เชื้อโรคบางชนิดมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และไม่ได้เกิดจากกรรม เกิดจากอุตุ และ
เชื้อโรคบางชนิดก็มีชีวิต อย่างคนที่กินยาถ่ายพยาธิ รู้ว่ากินไปแล้วพยาธิตายเป็น
ปาณาติบาต จะรักษาสุขภาพ หรือรักษาศีล ก็แล้วแต่การสะสมและการเห็นโทษ
ของการล่วงศีล เห็นคุณประโยชน์ของการรักษาศีลค่ะ
ควรทราบเบื้องต้นว่า จุลินทรีย์ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์หรือพีช แต่เป็นสิ่งที่นับเนื่องในอาณาจักรฺแบคทีเรีย ไม่มีจิต ไม่มีเจตสิก ฉะนั้นการทำลายจุลินทรีย์ หรือการทำลายพีช จึงไม่ชื่อว่าเป็นการฆ่าสัตว์ในความหมายของสัตว์ ที่พระพุทธองค์ทรงหมายเอาว่า สัตว์มีชีวิตที่เกิดจากกรรม มีจิต มีเจตสิก และรูป
ความเห็นผมด้านล่าง
การทำลายพืช ตัดไม้ทำลายป่า ไม่บาปเหรอครับ ผมว่าแปลกๆ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น เรียน ความคิดเห็นที่ ๕ ครับ ตามหลักฐานทางพระพุทธศาสนาแล้ว สิ่งมีชีวิต ต้องเกิดจากกรรมเท่านั้นพระธรรม เป็นธรรมอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ครับ เรียน ความคิดเห็นที่ ๙ ครับ การทำลายพืช หรือ ทำลายเชื้อโรคต่างๆ ไม่ได้เป็นปาณาติบาต ไม่ได้เป็นอกุศลกรรมบถ เพราะสิ่งที่ถูกทำลาย ดังกล่าวกล่าวนั้น ไม่ใช่ิสิ่งที่มีชีวิต แต่ประเด็นที่คุณผู้ใช้นามว่า "บ้านดอน" ได้ถามเพิ่มเติมว่า การตัดต้นไม้ทำลายป่า ไม่บาปหรือ? ธรรม เป็นเรื่องตรง ต้องเข้าใจก่อนว่า บาป คือ อะไร? บาป เป็น อกุศลธรรมอย่างแน่นอน เป็นสภาพธรรมฝ่ายดำ ซึ่งหลักๆ แล้ว มุ่งหมายถึงขณะที่กระทำอกุศลกรรมบถ เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม เป็นต้น ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดผลที่ไม่ดีในภายหน้า ซึ่งว่าโดยละเีอียดแล้ว ไม่พ้นไปจากอกุศลจิต และ อกุศล-เจตสิก ที่เกิดร่วมด้วย สำหรับกรณีตัดต้นไม้ทำลายป่า ควรที่จะได้พิจารณาว่าในขณะนั้น จิต เป็นอะไร ต้นไม้นั้น เป็นต้นไม้ของใคร มีเจ้าของหวงแหนหรือไม่? ถ้าเป็นต้นไม้ที่ผู้อื่นหวงแหนหรือทางราชการหวงแหน รู้ว่าเป็นต้นไม้ที่ผู้อื่นหวงแหน มีจิตคิดจะลักขโมยด้วยการตัด มีความพยายามในการตัด และ ในที่สุดก็ตัดไปได้ ทั้งหมดนั้น จะกระทำด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นมุ่งเอาผลประโยชน์จากต้นไม้ หรือ เพื่อกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด ล้วนเข้าข่ายการลักทรัพย์ทั้งหมด เป็นบาปอย่างแน่นอน [เว้นแต่ว่า เป็นต้นไม้ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ หรือ เป็นต้นไม้ของตนเอง] ดังนั้น จึงควรพิจารณา แยกกัน ระหว่าง การทำลายพวกเชื้อโรค ที่เป็นสิ่งไม่มีชีวิตย่อมไม่เป็นปาณาติบาต (ไม่เป็นการฆ่าสัตว์) กับ การมีเจตนาที่จะตัดต้นไม้ทำลายป่าอันไม่ใช่ต้นไม้ของตนเอง เพราะประเด็นหลังนี้ เข้าข่ายผิดศีลข้อ ๒ คือ การลักทรัพย์ เป็นบาป ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ