ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เห็นกับการนึกรูปร่างสัณฐานต่างกันอย่างไร?
ข้อความจากรายการแนวทางเจริญวิปัสสนาครั้งที่ 631
เห็นเป็นนามธรรม สติระลึกรู้ได้ฉันใด คิดนึกเป็นนามธรรม สติก็ระลึกรู้ได้ในลักษณะของนามธรรมนั้น จึงจะหมดความสงสัยในสภาพของนามธรรม
ถ้าปัญญาไม่สามารถรู้ลักษณะของนามธรรมได้ ก็ ไม่ต้องมีการอบรมเจริญสติปัฏฐานหรือการอบรมเจริญปัญญา
แต่เพราะว่านามธรรมไม่ใช่ตัวตน มีลักษณะแต่ละอย่าง จึงสามารถที่จะอบรมเจริญปัญญาให้รู้ชัดในลักษณะของนามธรรมแต่ละอย่างนั้นตามความเป็นจริงได้
ความยาก ยากเพราะว่า ช่างเป็นของจริงตามปกติ แสนที่จะธรรมดา จนยากแก่การที่จะประจักษ์แจ้งรู้ชัดตามความเป็นจริงได้
ที่ว่า เห็นเป็นสภาพธรรมชนิดหนึ่ง ส่วนการที่จะรู้ความหมาย รู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็นอะไร ไม่ใช่การเห็นทางตา แต่เป็นการตรึกนึกถึงรูปร่างของสิ่งที่เห็นทางตา เป็นเรื่องทางใจ ... นั่นเป็นความเข้าใจขั้นการฟัง
การศึกษาจริงๆ ที่จะให้รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ ต้องเป็นการศึกษาพร้อมสติ จึงสามารถที่จะแยกได้ว่า ทางตาเพียงเห็น ส่วนการตรึกนี่ไม่ใช่ทางตาแล้ว
แต่เมื่อไม่ได้หลับตาลงไป ก็เห็นอยู่อย่างนี้ ทางใจก็รู้สิ่งที่ปรากฏต่อไปเลย โดยที่ทางตาก็ไม่ได้ดับไป นี่แสดงถึงความรวดเร็วของสภาพธรรม ซึ่งผู้ที่จะรู้ได้ต้องเป็นผู้ละเอียดจริงๆ
ที่จะสังเกตรู้ว่า การตรึกนึกถึงรูปร่างต้องมี ถ้าไม่มีการตรึกถึงรูปร่าง จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่ปรากฏเป็นอะไร นี่เป็นความรวดเร็วของสภาพธรรมที่เกิดดับสืบต่อกัน
[สรุป]
ไม่ทราบเคยมีไหม ที่เห็นคนหนึ่งแล้ว แม้ยังไม่ได้รู้จักชื่อของเขา ก็จำรูปร่างสีผิวหน้าตาบุคคลนั้นได้ โดยที่ยังไม่รู้ชื่อด้วยซ้ำ ไม่ได้นึกคำ นึกชื่อด้วยซ้ำ นั่นก็เป็นความจริงที่นึกคิดถึงสีที่ปรากฏนั้นด้วยความเป็นรูปร่างสัณฐานต่างๆ ซึ่งไม่ใช่สภาพที่เห็น และสิ่งนั้นก็มีอยู่จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งสติสามารถเกิดขึ้นระลึกความจริงนั้นได้ตามปรกติ
ขอกราบอนุโมทนา
ยินดีในกุศลจิตครับ