เดี๋ยวนี้มีทุกข์ก็ไม่รู้ แล้วจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร ไม่รู้ว่าทุกข์อยู่ไหน แล้วจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร พ้นทุกข์ไม่ได้ เพราะไม่รู้
ชีวิตประจำวันเดี๋ยวนี้ทุกข์อะไร!!!!! ทุกข์กายทุกข์ใจทุกคนรู้จักเป็น ทุกขทุกข อร่อยทุกวันก็ยังเป็นทุกข์เพราะเบื่อ แสวงหาไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบเพราะทุกข์แล้วในสิ่งที่เคยพอใจ ชีวิตต้องเป็นไปตามความอยากไม่สิ้นสุดเป็น วิปรินามทุกข์ แม้ได้มาแล้วก็ต้องตาย ไม่พ้นจากการพลัดพราก ไม่มีสิ่งใดที่ยั่งยืนเลย ต้องเป็นปัญญาที่รู้ถึง สังขารทุกข์ ด้วยความไม่รู้จึงติดข้อง ยึดมั่นว่าเป็นเราเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ติดข้องที่สุดคือความเป็นเรา แสวงหาทุกอย่างเพื่อเรา
เป็นผู้เห็นประโยชน์ของการรู้ความจริงจากการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากการฟังธรรมจึงเข้าใจทุกอย่างที่มี ถ้ามีโอกาสได้ฟังก็เป็นลาภอันประเสริฐ ทรงตรัสรู้ว่า ธรรมะทั้งหลายเป็นอนัตตา ที่เคยเป็นเราเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่มีปัจจัยเกิดแล้วก็ดับและไม่กลับมาอีกเลย เปลี่ยนความจริงไม่ได้เลย ความจริงเป็นอย่างนี้ควรรู้ไหม!!!!! เป็นประโยชน์ไหมที่จะละความติดข้องที่ไม่เที่ยง จากไม่มี แล้วมี แล้วหามีไม่ ถ้าไตร่ตรองจริงๆ โลกก็ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นโลก เป็นสิ่งซึ่งต้องเกิดและต้องดับ
การฟังธรรมะคือฟังสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ค่อยๆ พ้นทุกข์จากความไม่รู้และความติดข้อง
กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาครับ
การฟังธรรมะคือฟังสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ค่อยๆ พ้นทุกข์จากความไม่รู้และความติดข้อง
.. ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ..
ขออนุโมทนาครับ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
ปัญญาเป็นยารักษาแผลเรื้อรังคือโรคไม่รู้ความจริง และความเห็นผิด จึงต้องฟังพระธรรมต่อไป เพื่อเข้าใจความเป็นธรรมแต่ละหนึ่ง แต่ละขณะ ที่ไม่ใช่เรา
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
ขอบพระคุณท่านผู้เผยแพร่พระธรรมทุกท่านค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ