๖. ทุติยสมณพราหมณสูตร ว่าด้วยผู้ควรยกย่องและไม่ควรยกย่องว่าเป็นสมณพราหมณ์
โดย บ้านธัมมะ  8 ก.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 36933

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 434

๖. ทุติยสมณพราหมณสูตร

ว่าด้วยผู้ควรยกย่องและไม่ควรยกย่องว่าเป็นสมณพราหมณ์


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 27]



ความคิดเห็น 1    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 434

อรรถกถาปฐมสมณพราหมณสูตร

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสัจจะ ๔ ไว้ในสูตร ๔ สูตร มีปฐมสมณพราหมณสูตรที่ ๕ เป็นต้น (และ) ตรัสการละกิเลสไว้ในสูตร ๒ สูตร แล.

จบอรรถกถาปฐมสมณพราหมณสูตร

จบ ปฐมวรรคที่ ๑

๖. ทุติยสมณพราหมณสูตร (๑)

ว่าด้วยผู้ควรยกย่องและไม่ควรยกย่องว่าเป็นสมณพราหมณ์

[๓๗๒] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะท่านพระราธะว่า ดูก่อนราธะ อุปาทานขันธ์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน?

ได้แก่ อุปาทานขันธ์ คือ รูป ฯลฯ อุปาทานขันธ์ คือ วิญญาณ ดูก่อนราธะ สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ไม่รู้ชัดเหตุเกิดความดับ คุณ โทษ และอุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่งอุปาทานขันธ์ ๕ ประการนี้ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นย่อมไม่ได้รับยกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะ หรือไม่ได้รับยกย่องว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ อนึ่ง ท่านเหล่านั้นจะทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ (อรหัตตผล) หรือประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ (อรหัตตผล) ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ไม่ได้


(๑) สูตรที่ ๖ เป็นต้น แก้ไว้รวมๆ กัน ท้ายสูตรที่ ๕


ความคิดเห็น 2    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 435

เลย ดูก่อนราธะ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งย่อมรู้ชัดเหตุเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่งอุปาทานขันธ์ ๕ ประการนี้ ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นย่อมได้รับยกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะ และได้รับยกย่อง
ว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ อนึ่ง ท่านเหล่านั้นย่อมทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ (อรหัตตผล) และประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ (อรหัตดผล) ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ได้ด้วย.
จบ ทุติยสมณพราหมณสูตร

๗. โสตาปันนสูตร

ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน

[๓๗๓] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะท่านพระราธะว่า ดูก่อนราธะ อุปาทานขันธ์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน?

ได้แก่ อุปาทานขันธ์ คือ รูป ฯลฯ อุปาทานขันธ์ คือ วิญญาณ ดูก่อนราธะ ในกาลใดแล อริยสาวกย่อมรู้ชัดเหตุเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่งอุปาทานขันธ์ ๕ ประการนี้ตามความเป็นจริง เมื่อนั้น อริยสาวกนี้ เราตถาคตกล่าวว่าเป็นโสดาบัน
ผู้มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ โสตาปันนสูตร