[เล่มที่ 79] พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา-บุคคลบัญญัติ เล่ม ๓ - หน้าที่ 310
บรรดาบุคคลเหล่านั้น บุคคลเปรียบด้วยผ้าแคว้นกาสี ๓ จำพวก เป็นไฉน
[๙๖] ผ้าแคว้นกาสี ๓ ชนิด คือ
๑. ผ้ากาสีแม้อย่างใหม่ก็มีสีงาม นุ่งห่มสบายและมีราคามาก
๒. ผ้ากาสีแม้กลางเก่ากลางใหม่ก็มีสีงาม นุ่งห่มสบายและมีราคามาก
๓. ผ้ากาสีแม้อย่างเก่าก็มีสีงาม นุ่งห่มสบายและมีราคามาก คนทั้งหลายย่อมเอาผ้ากาสีแม้เก่าแล้ว ไปใช้สำหรับห่อรัตนะบ้าง หรือเก็บผ้ากาสีนั้นไว้ในโถหอมบ้าง
[๙๗] บุคคลเปรียบด้วยผ้าแคว้นกาสี ๓ จำพวก เหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในภิกษุทั้งหลายฉันนั้นเหมือนกัน บุคคล ๓ จำพวก เป็นไฉน
๑. แม้หากว่าภิกษุใหม่มีศีล มีธรรมอันงาม แม้ฉันใด บุคคลเหล่านี้ก็อุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีวรรณะงาม ส่วนคนเหล่าใดย่อมสมาคม ย่อมคบย่อมเข้าใกล้ ย่อมเอาอย่างบุคคลนี้ การเสพนั้นย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่คนเหล่านั้นตลอดกาลนาน ผ้ากาสีนั้นนุ่งห่มสบาย แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีสัมผัสสบาย ก็บุคคลนี้รับจีวร บิณฑบาตเสนาสนะ คิลานปัจจัยเภสัชบริขารของคนเหล่าใด ทานของคนเหล่านั้น ย่อมมีผลมาก ย่อมมีอานิสงส์มาก ผ้ากาสีนั้น ย่อมมีราคามาก แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมย ฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีราคามาก
๒. แม้หากว่าภิกษุชั้นมัชฌิมะ ฯลฯ
๓. แม้หากว่าภิกษุชั้นพระเถระ มีศีล มีธรรมอันงาม ผ้ากาสีนั้นสีงามแม้ฉันใดบุคคลนี้ก็อุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีวรรณะงาม ส่วนคนเหล่าใด ย่อมสมาคม ย่อมคบ ย่อมเข้าใกล้ ย่อมเอาอย่างบุคคลนี้ การเสพนั้นย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเพื่อความสุขแก่คนเหล่านั้นตลอดกาลนาน ผ้ากาสีนั้นมีสัมผัสสบาย แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้รับจีวรบิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ของคนเหล่าใด ทานของคนเหล่านั้น ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ผ้ากาสีนั้นมีราคามาก แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีค่ามาก หากว่าพระเถระเห็นปานนี้จะว่ากล่าวในท่ามกลางสงฆ์ ภิกษุทั้งหลายก็จะกล่าวกับพระเถระผู้นั้นอย่างนี้ว่า ขอท่านผู้มีอายุทั้งหลายจงเงียบเสียง พระเถระกล่าวธรรมและวินัย ถ้อยคำของพระเถระนั้น ย่อมถึงซึ่งความเป็นของควรเก็บไว้ในหทัย ดุจผ้ากาสีนั้น อันบุคคลควรเก็บไว้ในโถของหอมฉะนั้น
บุคคลเปรียบด้วยผ้าแคว้นกาสี ๓ จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในภิกษุทั้งหลาย
อรรถกถาบุคคลผู้เปรียบด้วยผ้าแคว้นกาสี ๓ จำพวก
ผ้าเนื้อละเอียด ที่เขาทอด้วยด้าย ที่เขาถือเอาฝ้าย ๓ ชนิด แล้วกรอเข้าด้วยกันว่า ผ้าแคว้นกาสี. ผ้านั้นที่ทอใหม่นับค่ามิได้ ที่ใช้สอยกลางเก่ากลางใหม่มีราคาพันบ้าง ๓๐ พันบ้าง แต่ในเวลาที่เก่าแล้วยังมีราคาถึง ๘ พันก็มี ๑๐ พันก็มี.
สองบทว่า "เตสนฺตํ โหติ" ความว่า การเสพนั้นของบุคคลเหล่านั้นย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขตลอดกาลนาน เหมือนบุคคลทั้งหลายผู้เสพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นต้น เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายผู้อาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียวแล้วหลุดพ้นจากอาสวกิเลสจนถึงสมัยทุกวันนี้นับประมาณมิได้ สัตว์ทั้งหลายที่อาศัยพระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานเถระ และพระอสีติมหาสาวก แล้วไปสู่สวรรค์ก็หาประมาณมิได้เหมือนกัน แม้สัตว์ผู้ดำเนินไปตามทิฏฐานุคติ คือ ตามเยี่ยงอย่างของพระอริยะเหล่านั้นจนถึงสมัยทุกวันนี้ก็หาประมาณมิได้เหมือนกัน.
สองบทว่า "อาเธยฺยํ คจฺฉติ" ความว่า คำของพระเถระนั้นอาศัยอรรถย่อมถึงซึ่งความเป็นของอันบุคคลพึงเก็บรักษาไว้ คือ วางไว้บนศีรษะอันเป็นอวัยวะอันสูงสุด และในหัวใจ เหมือนกันกับผ้าแคว้นกาสี อันนับค่ามิได้ ย่อมถึงซึ่งความเป็นของบุคคลพึงเก็บรักษาไว้ คือ วางไว้ในโถสำหรับใส่ของหอมฉะนั้น. คำที่เหลือในที่นี้ บัณฑิตพึงทราบตามแนวแห่งนัยที่ได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังนั่นแหละ
คนที่เป็นอสัตบุรุษคือคนที่เข้าใจธรรมะผิดและทุศีล ส่วนคนที่เป็นสัตบุรุษเข้าใจธรรมะถูกและมีศีล ค่ะ
[เล่มที่ 61] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๗ - หน้าที่ 130
[๒๑๕๒] ข้าแต่พระราชา บุคคลคบคนใดๆ เป็นสัตบุรุษ อสัตบุรุษ มีศีล หรือไม่มีศีล เขาย่อมตกอยู่ใต้อำนาจของบุคคลนั้นนั่นแหละ บุคคลคบคนเช่นใดเป็นมิตร หรือเข้าไปซ่องเสพคนเช่นใด ก็ย่อมเป็นเช่นคนนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันเป็นเช่นนั้น อาจารย์คบอันเตวาสิกย่อมทำอันเตวาสิก ผู้ยังไม่แปดเปื้อนให้แปดเปื้อนได้ อาจารย์ถูกอันเตวาสิกพาแปดเปื้อนแล้ว พาอาจารย์อื่นให้เปื้อนอีก เหมือนลูกศรที่เปื้อนยาพิษแล้ว ย่อมทำแล่งลูกศรให้เปื้อน ฉะนั้น
นักปราชญ์ไม่พึงมีสหายลามกเลยทีเดียว เพราะกลัวแต่การแปดเปื้อน ด้วยบาปธรรม นรชนใด ห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา แม้ใบหญ้าคาของนรชนนั้น ย่อมมีกลิ่นเน่าฟุ้งไป ฉันใด การเข้าไปคบหาคนพาลก็เช่นนั้นเหมือนกัน นรชนใดห่อกฤษณาด้วยใบไม้ แม้ใบไม้ของนรชนนั้น ก็ย่อมหอมฟุ้งไปฉันใด การเข้าไปคบหานักปราชญ์ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุนั้น บัณฑิตรู้ความเปลี่ยนแปลงของตนดุจห่อใบไม้แล้ว ไม่ควรเข้าไปคบหาพวกอสัตบุรุษควรคบหาแต่พวกสัตบุรุษ ด้วยว่าอสัตบุรุษย่อมนำไปสู่นรก สัตบุรุษย่อมพาให้ถึงสุคติ.
จบสัตติคุมพชาดกที่ ๗
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น