ผมได้พบธัมมะจากองค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านอาจารย์สุจินต์และเหล่าอาจารย์วิทยากรบ้านธัมมะได้ถ่ายทอด ได้ประมาณสามเดือนครับ
ผมได้เห็นถึงประโยชน์สูงสุดในชีวิตที่ไม่เคยได้ฟังได้รู้มาก่อน มีบางครั้งฟังท่านอาจารย์สุจินต์บรรยาย รู้สึกประทับใจซาบซึ้งถึงน้ำตาเอ่อออกมาเอง
แต่เมื่อย้อนนึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้เสียเวลาอ่านศึกษามาจากพระบางรูปที่เทศน์สอน พบว่าผิดจากหลักธัมมะที่พระพุทธองค์สอนราวกับฟ้ากับเหว และยิ่งเห็นว่าบุคคลเหล่านั้นมีผู้ติดตามเป็นสาวกมากมาย ยิ่งรู้สึกสลดสังเวชใจยิ่งนัก รวมทั้งรู้สึกเสียใจกับอดีตของตนเองที่เคยเป็นเหมือนสาวกเหล่านั้นด้วย แม้จะไม่เคยไปปฏิบัติก็ตาม
เราจะทำอย่างไรกับภิกษุเหล่านั้นดีครับ เพื่อเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ใคร่ขอคำแนะนำจากอาจารย์ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การแสดงความจริงด้วยความหวังดี ไม่ใช่ด้วยการเพ่งโทษด้วยอกุศลธรรม ด้วยจิตที่โกรธ และต้องไม่ลืมว่าพระธรรม ความเห็นถูกไม่สาธารณะกับทุกคน พระพุทธเจ้าไม่สามารถที่จะช่วยผู้ที่ประพฤติไม่ดี มีความเห็นผิดได้ทุกคน แต่ช่วยผู้ที่สะสมความเห็นถูกมาได้เท่านั้น เพราะฉะนั้น ไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงคนที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะนั่นเท่ากับว่าลืมความเป็นอนัตตาและจิตของผู้นั้นเองก็จะเป็นอกุศล ที่จะจัดการให้คนนั้นเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ตามความชอบใจของตน ซึ่งลืมความเป็นอนัตตา
การแสดงธรรมผู้ใดเห็นประโยชน์สะสมมาก็เป็นประโยชน์กับผู้นั้น นี่คือ ประโยชน์ของการแสดงความจริง เพราะถ้าไม่มีการแสดงความจริง ผู้ที่ได้สะสมปัญญามาก็จะไม่ได้รับความเห็นถูก เมื่อใดก็ตามที่เข้าใจความเป็นอนัตตา ว่ามีแต่ธาตุ จิต เจตสิก ธาตุเลว ธาตุดี ธาตุเห็นถูก ธาตุเห็นผิด ก็จะเข้าใจถูกว่าเป็นไปตามธาตุ ตามการสะสม ไม่มีตัวตนจะไปจัดการใครได้ นอกจากธาตุแต่ละคนที่สะสมมา ครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ
ขออนุโมทนาครับ เคยศึกษามาเยอะเหมือนกันครับกว่าจะเจอธรรมะแท้ๆ ซึ่งมีน้อยเหมือนทองคำธรรมชาติครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ถ้าเผิน ประมาทพระธรรมว่าง่าย ไม่ศึกษาด้วยความเคารพละเอียดรอบคอบ ก็เข้าใจผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เมื่อเข้าใจผิดแล้วจะสอนถูกได้อย่างไร มีแต่สอนผิดบิดเบือนคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นโทษทั้งกับตนเองและผู้อื่น เปรียบเหมือนกับการหว่านหนามและการราดยาพิษไปทั่ว ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แก่ใครๆ ทั้งสิ้น และไม่ใช่การแสดงธรรมอีกด้วย เพราะการแสดงธรรมต้องเป็นการให้ความจริงเปิดเผยความจริงให้ผู้ฟังได้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่มีจริงอย่างถูกต้อง เท่านั้น
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัททุกคนที่จะร่วมกันศึกษาพระธรรมให้เข้าใจอย่างถูกต้อง เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรมที่จะได้แพร่หลายกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ก็กล่าวคำจริง ดำรงรักษาความถูกต้องเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่นต่อไป ถ้าเขามีเหตุที่ดีที่ได้สะสมมา แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีการเข้าใจผิด สอนผิด แต่ถ้าได้ฟังความจริงไตร่ตรองในเหตุและผล ก็ย่อมจะเข้าใจได้ สามารถละทิ้งสิ่งที่ผิดได้ แต่ถ้าเขาไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ไม่ได้สะสมเหตุที่ดีมา ใครๆ ก็ช่วยไม่ได้ เพราะ พระธรรมไม่ได้สาธารณะกับทุกคน เฉพาะผู้ที่เห็นคุณค่าเห็นประโยชน์เท่านั้น ครับ
ข้อความบางตอนจากคำสนทนาของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้
"ต้องไม่ลืมหน้าที่ของพุทธบริษัท ไม่ใช่คนเดียว บริษัทที่เข้าใจพระธรรมแล้วก็มีความหวังดี มีความเป็นมิตรที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้อง เพราะฉะนั้น เมื่อทำด้วยใจที่เห็นแก่คนอื่นที่จะทำให้เขาได้ค่อยๆ เข้าใจถูก เพื่อที่จะได้เป็นพุทธบริษัทที่ดำรงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะกลัวอะไร ทำไมไม่พูด (คำจริง) เพราะเหตุว่า เวลานี้ คนเข้าใจผิด ถ้าเขามีโอกาสได้ฟังสิ่งที่ถูก ก็เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตของเขาที่เขาจะไม่หลงผิดในชาตินี้ ซึ่งต่อไปชาติหน้าคิดดูก็แล้วกัน ว่า (ถ้าในชาตินี้ไม่ได้ฟังสิ่งที่ถูก เป็นผู้หลงผิด) จะหลงผิดอีกสักเท่าไหร่ ไม่กลับมาอีกเลย ทั้งๆ มีคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ฟัง เพราะฉะนั้น เป็นหน้าที่ของพุทธบริษัทที่จะอนุเคราะห์ซึ่งกันและกันที่จะดำรงพระศาสนา เพราะว่า เราได้ฟังคำที่ทำให้เราได้เข้าใจว่าอะไรถูกอะไรผิด แล้วก็ถ้าสามารถที่จะทำให้คนอื่นได้ยินได้ฟังคำที่พระองค์ตรัสไว้ทั้งหมด ๔๕ พรรษา เขาก็จะค่อยๆ ละสิ่งที่ผิด และในที่สุดก็จะเข้าใจถูกกันมากขึ้น แต่ ถ้าไม่มีการกล่าว (คำจริง) เลย เขาจะเข้าใจถูกได้อย่างไร?"
อ้างอิงจากหัวข้อ ...
ไม่หยุดกล่าวคำจริง
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ลึกซึ้งและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมและอาจารย์คำปั่นเป็นอย่างสูง
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง
ไม่ใช่เรา อนัตตา ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง เกิดตามเหตุตามปัจจัย เกิด,ดับ แสนสั้น
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ