ขอเรียนถามท่านผู้รู้ครับว่า
๑. ด้วยเหตุใดท่านจึงแสดงไว้ว่าธรรมะเหล่านี้เป็นอายตนะภายใน ธรรมะเหล่านี้เป็นอายตนะภายนอก
๒. จิตและเจตสิกเกิดพร้อมกัน เกิดที่วัตถุเดียวกัน รู้อารมณ์เดียวกัน และดับพร้อมกัน เหตุใดจิตจึงเป็นอายตนะภายใน ส่วนเจตสิกเป็นอายตนะภายนอก
๑. การแสดงพระธรรมโดยนัยของอายตนะภายในและอายตนะภายนอก ของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ทรงแสดงตามสภาพที่เป็นจริงของธรรมะ อายตนะภายในเหมือนเจ้าของเรือน เหมือนคนภายในบ้าน อายตนะภายนอกเหมือนชนภายนอก ที่เป็นแขก ดังนั้นการแสดงการจำแนกประเภทของสภาพอายตนะจึงมี ๑๒ ประเภท เป็นภายใน ๖ เป็นภายนอก ๖
๒. จิตเป็นธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ เหมือนเจ้าของบ้าน ส่วนเจตสิก อาศัยจิตเกิด เหมือนผู้มาเยือน จึงเป็นภายนอก
ขออนุโมทนาครับ
อายตนะ แปลว่าบ่อเกิด ที่ประชุม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นอายตนะภายใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ เป็นอายตนะภายนอกค่ะ
บรรลุโดยนัยเทศนาใด ก็ทรงแสดงโดยนัยเทศนานั้นอีกนัย อายตนะภายในเหมือนบ้านร้าง อายตนะภายนอกเหมือนโจรปล้นชาวบ้าน เมื่อตา (ภายใน) กระทบรูปหรือสี (ภายนอก) พวกโจร (อายตนะภายนอก :สี) ย่อมเข้าบ้าน (อายตนะภายใน :ตา) จิต ยินดีหรือยินร้ายในสิ่งที่เห็นเป็นอกุศล เปรียบเหมือน ถูกพวกโจรเข้าไปในบ้านแล้วฆ่าชาวบ้าน แต่เมื่อใด อบรมปัญญา เปรียบเหมือนพวกโจรเข้าไปในบ้านร้าง ไม่พบใคร ก็หลีกไป เปรียบดังเมื่อเห็น ได้ยิน ฯลฯ แล้วเข้าใจความจริง ไม่ยึดมั่นว่าเป็นสัตว์ บุคคล รู้ว่าเป็นแต่นามธรรม รูปธรรม จนบรรลุมรรคผล
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาทุกท่านครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่ได้กรุณาอธิบายให้เข้าใจว่าพระธรรมตามที่ทรงบัญญัติไว้นั้น ก็เพื่อแสดงถึงชีวิตตามปกติในขณะนี้จริงๆ อย่างไร
ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ท่านทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็นอายนะภายในหรือภายนอก พระพุทธเจ้าทรงตรัสมาเพื่อการไม่ยึดมั่นถือมั่น ให้รู้ว่าสิ่งนี้คือส่วนที่มากระทบภายใน โดยมีอายนะภายนอกเป็นปัจจัยทำให้ยึดมั่นถือมั่น ให้รู้ว่าที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลมาจากอายตนะภายนอกเป็นปัจจัย
อนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ