หนทางเดียว ที่ท่านอาจารย์บอกกล่าวกับทุกคนอย่างมั่นคงทุกครั้งคือการฟังพระ
ธรรม ไม่มีทางอื่นเลย
1. โดยฟังอย่างพิจารณา ไตร่ตรอง เทียบเคียงกับความเป็นจริง
2. ฟังวันนี้ ต่างจากเมื่อวาน ต่างจากเมื่อเดือนก่อน ต่างจากเมื่อปีก่อนแน่นอน อย่าเพิ่ง
ใจร้อน อยากรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ธรรมะอย่างนั้นเกิดหรือยัง ธรรมะอย่างนี้ชื่ออะไร
มีความหมายอย่างไร ท่านอาจารย์พูดชัดเจนว่า บอกไปก็ลืม หรือจำได้ก็รู้จักแต่ชื่อ
เรื่องราว ไม่รู้จักสภาพธรรมจริงๆ
3. เมื่อฟังบ่อยๆ ค่อยๆ เข้าใจทีละน้อยๆ จะค่อยๆ เข้าใจมากขึ้น มากขึ้น ความรู้ความ
เข้าใจจะเกิดขึ้นเอง
4. ให้รู้จักธรรมะ โดยรู้จากความจริงที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ขณะนี้ เช่นขณะนี้มีเห็น เห็นมี
จริงๆ ปรากฏแล้วทางตา เกิดแล้วดับแล้วรวดเร็วมากติดต่อกันจนเห็นว่าเป็นตัวตน สิ่ง
ของ มีอยู่ แท้จริงแล้วไม่มีสิ่งใดเลย มีแต่สภาพธรรม เกิดแล้วดับไป ไม่มีวันกลับมา ทำ
ให้เห็นความไม่เที่ยง เป็นอนัตตา ไม่มีสาระแก่นสารให้ยึดมั่น
5. เมื่อระลึกการเห็น หรือการได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส สัมผัส นึกคิด อยู่เนืองๆ เข้าใจว่านั่น
เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป ปัญญาจะเกิด มีการละคลาย ละความไม่รู้
ความสงสัย
6. ไม่ต้องไปสนใจที่ผ่านมาแล้วเรียกว่าอะไร หรือที่ยังไม่เกิดเรียกว่าอะไร หมายความ
ว่าอย่างไร ถ้าไม่รู้เดี๋ยวนี้ขณะนี้ ก็ไม่มีวันรู้สภาพธรรมอื่นๆ ต่อไปได้ ความสงสัยก็จะมี
ต่อไปอีก
การได้รู้ได้เข้าใจทีละน้อยๆ และค่อยๆ ละคลายความสงสัย โดยทั้งหมดนี้เกิดได้จาก
การฟังพระธรรม
เพราะฉะนั้นจึงขอเชิญชวนสหายธรรมทั้งหลาย ฟังพระธรรมคำสอนของพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้า โดยการถ่ายทอดของท่านอาจารย์สุจินต์ จากแผ่นMP3 ซึ่งเป็น
บันทึกย้อนหลังการแสดงธรรม หลาย พ.ศ. จะทำให้เข้าใจพระธรรมมากขึ้น ยิ่งฟังยิ่ง
เข้าใจ เชิญฟังนะครับ
กราบบูชาพระคุณของอาจารย์สุจินต์
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอาจารย์ครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
และจะฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟังโดยไม่ต้องมีตัวตนไปทำอะไรอีก
ขออนุโมทนาครับ
หนทางคือฟังต่อไป ไม่มีหนทางอื่น ขออนุโมทนาครับ และขอเชิญคลิกอ่าน --> เป็นทางเดียวที่เร็วที่สุด
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
เป็นความปิติ ที่ได้พบท่านอาจารย์สุจินต์ บรรยายธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง ขอ
อนุโมทนากุศลจิตของท่านอาจารย์สุจินต์ และ อนุโมทนาผู้ตั้งกระทู้ อ่านแล้วดีมาก