พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 215
๗. สุทธิกสูตร
ว่าด้วยความหมดจด
[๖๔๘] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้นแล สุทธิกภารทวาชพราหมณ์ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่ประทับ ครั้นแล้ว สนทนาปราศรัยกับพระผู้มีพระ-ภาคเจ้า ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง[๖๔๙] สุทธิกภารทวาชพราหมณ์ นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พราหมณ์บางคน ในโลกแม้เป็นผู้ มีศีล กระทำตบะอยู่ ย่อมหมดจดไม่ได้ พราหมณ์นั้นถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชา และ จรณะย่อมหมดจดได้ หมู่สัตว์อื่นนอกนี้ ย่อมหมดจดไม่ได้.
[๖๕๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า พราหมณ์ผู้กล่าวถ้อยคำแม้มาก เป็น ผู้เน่าและเศร้าหมองในภายใน อาศัยการ
โกหก (ลวงโลก) ย่อมไม่เป็นพราหมณ์ เพราะชาติ กษัตริย์ พราหมณ์ แพทย์ ศูทร คนจัณฑาล และคนเทหยากเยื่อ มี ความเพียรอันปรารภแล้ว มีจิตมั่นคง มี ความบากบั่นมั่นเป็นนิตย์ ย่อมถึงความ หมดจดอย่างยิ่ง ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด พราหมณ์.
[๖๕๑] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว สุทธิกภารทวาชพราหมณ์ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์ แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ก็แหละท่านพระภารทวาชะ ได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในบรรดาพระอรหันต์ ทั้งหลาย ดังนี้แล.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น....
และขอยึดถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดในชีวิต.....