* พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภการฟังธรรม จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้
* แม้ว่าการฟังพระธรรมจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะทำให้เข้าใจความจริง และเป็นเหตุให้ถึงฝั่งคือพระนิพพาน แต่การจะฟังพระธรรมจนมีความเข้าใจจริงๆ ก็ไม่ง่ายเลย เพราะเหตุที่สะสมความไม่รู้ และความติดข้องมาอย่างมากมายในชีวิตทุกภพชาติ เมื่อเกิดมาในชาตินี้ จึงมีแต่ความติดข้องในสิ่งที่ยึดถือ และเป็นไปตามกำลังของกิเลสอกุศลต่างๆ จนไม่ได้ฟังพระธรรม
* คนส่วนใหญ่ไม่สนใจที่จะฟังพระธรรม หรือแม้จะเริ่มมีความสนใจจะฟังพระธรรม แต่ก็มีเหตุให้ไม่ได้ฟัง เพราะมีเรื่องธุรกิจการงาน หรือเรื่องอื่นที่ผูกพันบ้าง ฟังแล้วไม่พอใจบ้าง หรือฟังแล้วง่วง ท้อถอย เบื่อบ้าง และเมื่อไม่ได้ฟังพระธรรม ก็ต้องมีชีวิตที่เป็นไปด้วยความยึดถือว่ามีเรา มีของเรา ต่อไป
* ส่วนคนที่จะฟังพระธรรมด้วยความตั้งใจมั่น จนมีความเข้าใจในความเป็นธรรมจริงๆ มีเพียงส่วนน้อย และที่จะอบรมเจริญปัญญาจนถึงฝั่งคือพระนิพพาน ยิ่งมีน้อยมาก
* ดังนั้นพระศาสดาจึงตรัสว่า "ธรรมดาสัตว์เหล่านี้อาศัยภพแล้วเลยข้องอยู่ในภพนั่นเอง โดยดาษดื่น ชนิดผู้
ถึงฝั่งมีจำนวนน้อย "
* เมื่อได้เกิดมาในกาลเวลาที่ยังมีพระธรรม ก็สมควรที่จะฟัง เพื่อสะสมความเข้าใจถูกในความเป็นธรรมที่ไม่ใช่เรา ซึ่งเป็นความจริงแท้และมีคุณค่าอย่างยิ่งในชีวิตนี้
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ