แม้นดิฉันจะรู้ตัวดีว่า เพื่อนสนิทของดิฉันนี้ไม่เคยทอดทิ้งกันไปไหนเลยก็ตาม ใจเราถึงกันเสมอ แต่จะว่าไป หลายปีมานี้ เราไม่ได้พบกันบ่อยมากนัก ได้แต่ทักกันแบบผ่านๆ ไม่ได้มีโอกาสมองหน้ากันนานแบบเมื่อก่อน แต่หลายสัปดาห์มานี้ เพื่อนรักเพื่อนซี้ทั้งสองเหมือนดั่งรู้ใจ มาพบดิฉันเกือบทุกวัน และเราต่างนั่งมองหน้ากันครั้งละนานๆ ไม่ได้พูดจากัน แต่ดูเหมือนคำพูดหลากหลายในใจดิฉันมันกลับหลั่งไหลไปสู่เพื่อนทั้งสองอย่างมากมาย.....
ทั้งที่เธอสองคนคือ เพื่อนสนิทที่ดิฉันต้องการตีจากมากที่สุด หากแม้นว่าดิฉันมีปัญญามากพอที่จะทำมันได้ ถึงรู้และคิดอย่างนั้น ดิฉันกลับนึกถึงและเรียกหาด้วยความสนิทชิดใกล้ว่า เพื่อนโลภะ เพื่อนโทสะ
ความที่รู้จักกันมานาน สายสัมพันธ์ที่มีต่อกันลึกซึ้งแน่นหนา แม้นเราจะเคยอยู่ห่างกันบ่อยครั้งแค่ไหนยังไง ความสนิทในใจก็ดูเหมือนจะไม่จืดจางอย่างแท้จริงได้เลยสักที
(ป.ล. มาเยี่ยมมาหาไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเป็นไปได้ อย่าอยู่นานนักนะเพื่อนนะ)
เพื่อนสนิทที่ไม่เคยห่างไกลเลยคือ โลภะ ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้ ชีวิตก็ดูอับเฉา ทำอะไรก็ตามต้องให้สนุก ต้องให้เพลิดเพลิน ต้องให้ติดใจ อยากให้ติดตามอยู่เรื่อยๆ แม้การเขียนกระทู้นี้ ก็อยากให้ผู้อ่านติดใจ ติดตาม และโต้ตอบ ส่วนโทสะนั้นแม้ไม่อยากจะให้เกิดเลย แม้โทสะอย่างอ่อนๆ เช่น ความเบื่อความเซ็ง แต่ก็ยังมีปัจจัยให้เกิดอยู่เสมอๆ เมื่อไม่ใช่โลภะ ก็ต้องเป็นโทสะ เป็นเช่นนี้อยู่เกือบตลอดเวลา มีกุศลเกิดบ้างก็น้อยเหลือเกิน เหมือนว่ายวนอยู่ในห้วงน้ำของโลภะและโทสะ สติจึงเป็นเกาะที่พักพิงทางใจ แม้จะเพียงช่วงสั้นๆ ก็ตาม
ขออนุโมทนาคุณ pornpaon นะคะ เราเคยเห็นกันหรือเปล่าเอ่ย อยากรู้จักจังเลยค่ะคุณ "หน้าม้า" ที่น่ารักของคน "บ้ายอ"
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ค่ะอ.แดง ขออนุโมทนานะคะ
ขอบพระคุณมากค่ะคุณ kanchana.c
และขออนุโมทนาคุณด้วยค่ะ เสียดายกระทู้ของคุณน่ะค่ะ ตั้งหลายเรื่องแน่ะ ดิฉันเป็นคนที่ยังไม่มีใครในบ้านธัมมะแห่งนี้พบหน้าตาจริงๆ แต่ว่าดิฉันอยากพบอยากรู้จักทุกๆ คนมาก เพราะแอบคุ้นเคยกันในเว็บนี้มานานเคยบอกคุณพาราระวี (เธอเคยชวนไว้ในน้องใหม่ขอฝากตัว) ไว้ในกระทู้ว่าจะไปที่มูลนิธิฯ ก็มีอกุศลเหตุติดขัดไม่รู้ว่าวันที่ ๙ พ.ค. นี้ ดิฉันจะได้ไปฟังท่านอจ.ที่ ร.พ.พระมงกุฏฯ และขอทำความรู้จักกับทุกท่านได้สักทีไหม
(สงสัยดิฉันยังรอเหตุปัจจัยให้ถึงพร้อมอยู่น่ะค่ะ)
ไม่มีเหตุ...ก็ไม่มีผลนะจ้ะ...อินดี้.
เพื่อนสนิทคือโลภะ เพื่อนที่ไม่ได้รับเชิญคือโทสะ เพื่อนที่หาตัวรู้จักได้ยากคือโมหะทั้ง 3 เป็นเพื่อนในคราบของศัตรูที่จะชักนำไปสู่อบายภูมิได้ทั้งนั้นส่วนเพื่อนที่จะชักจูงให้ไปยังทางที่ปลอดภัย และเกษมจากโยคะ คือ ศรัทธา ครับ...อนุโมทนาครับ...
เห็นมะม่วงแล้วเห็นหน้าเพื่อนโลภะทันที มันน่ากินจริงๆ นะคุณปริศนา
ถึงไม่มีโทสะมากนักในขณะนี้แต่โมหะนี่ก็ไม่แน่ว่าแอบเดินติดเป็นเงาตามมารึเปล่าเหมือนกันค่ะอาจารย์ครูโอ
แสงเทียน (ปัญญา) ต้องสว่าง (ละเอียดและมีกำลัง) มากกว่านี้จึงจะค่อยๆ เห็นและเข้าใจเพื่อนโมหะได้ชัดเจนขึ้นครับ แต่ถ้ายังสว่าง (กำลังของปัญญา) ไม่พอเขาก็ตามติดหลังเราต่อไปครับ ยิ่งเร่งเป่าให้สว่างเท่าไรเทียนก็ยิ่งใกล้มอดเหตุนี้ จึงต้องใจเย็นๆ และค่อยๆ เรียนรู้ไปแม้จะยังเห็นเพียงสลัวๆ มัวๆ ทึมๆ ก็ยังดีกว่าไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นเลยว่าจากมืดสนิทแล้วเกิดเป็นสว่างน้อยๆ เป็นยังไงใช่ไหมครับ?
ป.ล. ส่วนเพื่อนโลภะ เพื่อนโทสะ ก็ไม่ควรประมาทว่าเห็นง่าย ครับดีกรีของเขาบอกได้คำเดียวว่าเกิดเป็นปรกติ แต่มีพิษสงร้ายไม่ธรรมดา
อย่างโบราณท่านว่า... ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม. ใช่ไหมครับคุณคอรอมอ (ของป้าจาย)
อย่าได้ประมาทเพื่อนสนิททั้งสามเด็ดขาด
ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ