"สิ่งที่เห็นเป็นสภาพธรรมะ สิ่งที่จิตคิดเป็นสภาพธรรมะ" จะได้ยินประโยคหรือคำบรรยายนี้จากท่านอาจารย์สุจินต์บ่อยมาก อดที่จะอุปมาอุปไมยไม่ได้ว่า "ตัวเองกำลังอยู่กลางมหาสมุทร การที่จะเห็นเป็นสภาพธรรมะนั้น เหมือนยังมองไม่เห็นฝั่งเลย.." เมื่อวานนี้เด็กป่วยชายรายหนึ่งมารับยา เมื่อได้คุยกัน ดิฉันอดพูดกับเด็ก ไม่ได้ว่า " ไม่ได้มาตามนัด ขาดยาหรือเปล่า ทำไมลุงไม่ได้มาด้วย...ป้ากลุ้มใจกับเธอ จริงๆ " เด็กตอบว่า " ป้าจะเครียดทำไม๊...หนูยังไม่เครียดเลย" ดิฉันก็เลยหัวเราะ คิด ในใจจริงของเด็กนะ ทำไมต้องเครียด เครียดไปทำไม (เพราะเป็นสภาพธรรมะนั่นเอง) และตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เมื่อเจอผัสสะอะไร ก็คิดถึงใบหน้าและคำพูดของเด็กว่า "เครียดไปทำไม..หนูยังไม่เครียดเลย" ความขุ่นใจ หรือโทสะ ก็ดับไปอย่างง่ายดาย
ไม่ท้อในการฟังธรรม และเป็นบุญกุศลแล้ว ที่ได้ฟังธรรมะบรรยายจากท่านอาจารย์ สุจินต์ที่เคารพอย่างสูง... ถึงแม้จะมองไม่เห็นฝั่งในตอนนี้ แต่ก็เชื่อว่ามีฝั่งให้ไปถึง แน่นอน
แอ็ะยังไงกลายเป็นเด็กมาสอนป้า ให้มันได้ยังงั้น ศึกษาธรรมอย่าให้น้อยหน้าเด็กครับ ธรรมมีอยู่ตลอดเวลาอยู่กลางมหาสมุทร ก็มีธรรม ฟังไปเรื่อยๆ พิจารณาไปเรือยๆ ติดตามไปเรือยๆ ก็จะสัมผ้สธรรมได้ แล้วก็จะเห็นฝั่งอยู่ไรๆ ได้ แต่จะถึงก็คงยากหน่อยครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนากับโวหารที่ดีครับ
ขอน้อมรับในทุกความคิดเห็นมาพิจารณา และขออนุโมทนาในความเมตตาอารี ของทุกท่าน ที่มีต่อสหายธรรมที่ยังมีความรู้น้อย
ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
คุณนฤภัคก็ขยันและใส่ใจในเวลาฟังธรรมมาก
อนุโมทนานะคะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒- หน้าที่ 358
"บรรดามนุษย์ ชนผู้ถึงฝั่งมีจำนวนน้อย, ฝ่าย ประชานอกนี้ย่อมเลาะไปตามตลิ่งอย่างเดียว.ก็ชน เหล่าใดแล ประพฤติสมควรแก่ธรรมในธรรมที่เรา กล่าวชอบแล้ว, ชนเหล่านั้นล่วงบ่วงมารที่ข้ามได้ ยากอย่างเอกแล้ว จึงถึงฝั่ง." ผู้ที่จะถึงฝั่งคือผู้ที่เห็นพระนิพพานด้วยปัญญา ส่วนสัตว์โลกโดยมากก็ย่อมจมอยู่ใน ห้วงน้ำอันประกอบด้วยความไม่รู้ ไม่รู้ในสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่ เรา สัตว์โลกจึงเพียงเลาะไปตามตลิ่งคือสักกายทิฏฐิ ความยึดถึอว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน ยึดถือว่าสภาพธรรมที่เกิดขึ้นทาง ตา..ใจว่าเป็นเรา เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เมื่อยึดถือ ก็ย่อมเดือดร้อนในสิ่งที่ยึดถือด้วยอำนาจกิเลสที่ยึดถือผิดนั่นเอง
การอบรมปัญญาเพื่อถึงฝั่งพระนิพพานคือการฟังธรรมให้เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม ความเดือดร้อนก็เป็นธรรม ความคิดดก็เป็นธรรม ไม่ได้อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาเลย เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เกิดขึ้นแล้ว ปัญญาสามารถรู้ความจริงได้เพราะเกิดแล้วและ- ปรากฏให้รู้ มีลักษณะให้รู้ ดังนั้นดับความเห็นผิดอันเป็นตลิ่งที่เหล่าสัตว์วิ่งเลาะไปตาม ฝั่งก่อนครับ
ขออนุโมทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ความเป็นเรา ของเรา ละได้ยากจริงๆ (ติดตัวมาอย่างเหนียวแน่นมากๆ)
ขออนุโมทนา ในกุศลจิตของ คุณpaderm ที่อนุเคราะห์แสดงความคิดเห็นพิมพ์ข้อความบางตอน จากพระสุตตันตปิฎก มาให้อ่าน (และเข้าไปอ่านเพิ่มเติมแล้วค่ะ)
ขอบพระคุณมากจริงๆ
ชาติที่ได้ฟังพระธรรมและเกื้อกูลในธรรมกันย่อมเป็นชาติที่หาได้ยาก แต่สัตว์โลกทั้งหลายในอนันตจักรวาลที่ไม่เคยเป็นญาติกันก็หาได้ยากยิ่งเหมือนกัน
อนุโมทนาสาธุชนผู้ใฝ่ในธรรมทุกท่านครับ