หากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสรู้และเผยแพร่พระธรรม ปัญญาอย่างเราๆ ก็คงไม่สามารถทราบได้ว่า จริงๆ แล้วไม่มีตัวเราเลย แต่ด้วยความรวดเร็วของการเกิดดับสืบต่ออย่างเร็วสุดประมาณของรูปธรรมและนามธรรม ทำให้จึงเห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดและเป็นตัวเราที่เห็น ซึ่งถ้ายังเข้าใจผิดว่ามีตัวเราจริงๆ แล้วก็ไม่มีหนทางที่จะละกิเลสได้เลย จึงจำเป็นต้องศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ไม่มีใครเลยทั้งสิ้น ในขณะที่ได้ยินจะมีแต่ เสียงและจิตที่ได้ยินเสียงเท่านั้นไม่มีอะไรเลยทั้งสิ้น โลกไม่มี คนไม่มี มีแต่สภาพรู้และสิ่งที่ถูกรู้เท่านั้นจริงๆ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
อาจสงสัยว่า ไม่มีตัวเรา และที่ยืนอยู่กำลังอ่านอยู่ไม่ใช่ตัวเราหรือ? ต้องเข้าใจก่อนว่า อะไรที่มีจริง ถ้าไม่มีเห็น หลับตา ตัวเราอยู่ไหน อาจจับที่ตัวนี่ไงอะไร ปรากฏ อ่อน แข็ง อ่อน แข็ง เป็นอ่อน แข็งเป็นสิ่งที่มีจริง แต่เราคิดนึกจำได้ว่าที่อ่อน แข็ง เป็นแขน เป็นมือ เป็นขา แต่ลักษณะของธรรมที่มีจริง คือ อ่อนหรือแข็งเท่านั้น ดังนั้นจริงๆ แล้วมีแต่ธรรมที่ปรากฏเท่านั้น เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ความจำผิดที่คิดเป็นเรื่องราวจึงจำว่าเป็นเรา ทั้งๆ ที่เป็นแต่เพียงสภาพธรรม ดังนั้น การอบรมปัญญาประการแรกคือเข้าใจขั้นการฟังว่า ธรรมคืออะไร อะไรคือสิ่งที่มีจริง
ขออนุโมทนาด้วยครับ ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เราไม่มี มีแต่ขันธ์ ๕ เท่านั้น
ถึงแม้จะเข้าใจ แต่ก็ยังเป็น "เรา" นั่นเอง
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ยากมากๆ ที่จะรู้ทัน เพราะเร็วมากใช่ไหม
ยากที่จะรู้เพราะไม่มีปัญญาครับ ความจริงแล้วนามธรรมและรูปธรรมเกิดดับสลับกันอย่างรวดเร็ว เมื่อมีปัญญาคมกล้าย่อมสามารถรู้และเข้าใจตามเป็นจริงได้