วันปีใหม่ได้ขนมเค็กมา 1 กล่อง พอดีที่บ้านจะมีพี่สาวอยู่คนเดียว รวมทั้งตัวดิฉันก็เป็น 2 คนพี่สาวมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ดิฉันก็เป็นห่วงเพราะได้ขนมวันปีใหม่มาหลายอย่าง ก็กลัวว่าพี่สาวจะทานมากเกินไป จะเป็นโทษต่อตัวเอง จึงบอกให้พี่แบ่งเค็กให้เด็กๆ บ้าง พี่สาวพูดทำนองว่าจะไม่ให้จะเก็บไว้ ดิฉันก็ว่า อย่ากินมากเพราะเป็นเบาหวาน แจกๆ คนอื่นไปเถอะอย่าหวงไว้ทำไม เท่านั้นเองระเบิดก็ลง พี่สาวโกรธดิฉันมาก ว่าดิฉันใหญ่เลย ดิฉันก็พยายามชี้แจงว่าถ้ามีโอกาสน่าจะทำทานแบ่งปันให้คนอื่นไปเราก็จะได้บุญด้วยเพราะเราก็ทานมากไม่ได้เนื่องจากเป็นเบาหวานปรากฎพูดกันไม่รู้เรื่อง พี่สาวโกรธดิฉันไม่พูดด้วยเลย หาว่าดิฉันไม่เคยเห็นเขาดีเลย
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ดิฉันคิดว่าเป็นเพราะอะไรน้า ถึงคุยกันไม่รู้เรื่อง หรือเป็นเพราะวิบากที่เรามีต่อกัน เพราะดิฉันกับพี่สาวคุยกันได้ไม่นาน ส่วนใหญ่จะขัดแย้งกันตลอด ไม่เคยมีความเห็นตรงกันเลย เราหวังดี เขาก็มองไปอีกแบบหนึ่ง ทำให้ดิฉันทำใจลำบากจริงๆ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ทุกคนสะสมมาต่างๆ กัน ตามเหตุและปัจจัย บางคนสะสมในการสละ แต่บางคนก็ไม่ได้ สะสมมาที่จะเป็นผู้ให้ได้ง่าย ดังนั้น ถ้อยคำบางอย่างย่อมเป็นถ้อยคำที่ดีกับบุคคลหนึ่ง ถ้อยคำบางอย่างย่อมเป็นถ้อยคำที่ชั่วสำหรับอีกบุคคลหนึ่ง ดังเช่น ถ้อยคำในเรื่องการ ให้ย่อมเป็นถ้อยคำชั่วสำหรับคนตระหนี่ ย่อมเป็นถ้อยคำดี สำหรับบุคคลที่ยินดีในการสละ ดังนั้น สิ่งที่เราหวังดีแต่คนอื่นก็มองไม่เห็นได้เพราะสะสมมาต่างกันและเขาไม่ได้ เห็นด้วยปัญญา ต่อเมื่อใดปัญญาเกิด เขาย่อมรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรครับ ดังนั้น จึงควรรู้จักอุปนิสัยคนนั้นและอดทน ควรรู้จักกาลเทศะและบุคคลนั้นครับ ถ้าเตือนไปไม่มี ประโยชน์ ก็นิ่งเสียดีกว่าครับ เพียงแต่เราก็ทำในสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์อย่างอื่น และหลีกเลี่ยงในสิ่งที่จะทำให้ทะเลาะกัน เท่าที่จะทำได้ครับ
ขออนุโมทนา
เชิญคลิกอ่าน...
พูดดีเป็นชั่ว [ทุกถาสูตร]
เรื่อง ขอในสิ่งที่เขาหวงหรือรักอยู่ย่อมไม่ควร
เชิญคลิกอ่าน...
ขอสิ่งที่ไม่ควรขอ [มณิกัณฐชาดก]
ขอบพระคุณค่ะ อ่านแล้วเข้าใจและสบายใจแล้ว คงต้องทำใจ
เรื่องพูดกันไม่เข้าใจ ไม่ใช่มีแต่กับพี่น้อง ไม่ว่ากับใครหรือสถานการณ์ใดก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา คนพูดหวังร้าย คนฟังกลับเห็นว่าหวังดี แต่คนพูดที่หวังดี คนฟังกลับได้ยินเป็นหวังร้าย เป็นเรื่องธรรมดาโลกที่เกิดขึ้นบ่อยค่ะ ดิฉันเองก็โดนค่อนข้างบ่อย แต่อาศัยว่าเราเจตนาดี หากเขาจะเข้าใจผิดไปบ้างก็ต้องอภัยและไม่คิดมากขออนุโมทนาคุณแล้วเจอกัน ที่นำข้อความมาให้ได้อ่าน เข้าใจง่ายและเตือนตนเองได้มากขึ้น
ขอบพระคุณค่ะ
ถ้าเราหวังดีก็คงไม่ต้องหวั่นกลัวอะไรเพราะเราหวังดี แต่ต้องรู้จักกาลเทศะและบุคคลนั้น ครับ
สิ่งที่ควรทำคือไม่โกรธตอบ ผมชอบคำหนึ่งที่เคยอ่านพบ ท่านว่า "สิ่งสมควรโกรธ ไม่มีในโลก"
อนุโมทนา สาธุครับ
ปัญญาขั้นพระอนาคามีบุคคลจึงละโทสะโดยเด็ดขาด ไม่เกิดอีกเลย ปุถุชนอย่างพวกเรา เมื่อโกรธก็รู้ว่า โกรธ เป็นธรรมะ เกิดเพราะมีเหตุปัจจัย แล้วก็ดับด้วย แล้วมีเหตุให้โกรธ เกิดอีก โกรธก็เกิดอีก แต่เพราะไปยึดมั่นว่าโกรธเป็นเรา จึงเดือดร้อนใจเมื่อโกรธเกิด (ดิฉันก็ยังยึดว่าโกรธเป็นเราอยู่นะคะ)
เรื่องการเอาชนะความโกรธ เป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่เวลาทำ ทำยากจริงๆ เพราะตอนที่ทะเลาะกับพี่สาว ก็มีอารมณ์โกรธอยู่ในใจนะ ว่าทำไมไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพูด แต่ไม่ได้โต้ตอบออกมาเป็นคำพูด ได้แต่นิ่งเงียบ ปล่อยให้พี่สาวระบายความโกรธจนเลิกพูดไปเอง และไม่ยอมพูดกับดิฉันเลย กรณีนี้เราต้องไปง้อเขาหรือไม่ เพราะดิฉันก็บอกว่าต่อไปดิฉันจะไมยุ่งอีก ปล่อยให้เขาเป็นคนจัดการเอง เพื่อตัดปัญหาที่ต้องมานั่งทะเลาะกัน เพราะมีความเห็นไม่ตรงกัน
ขออนุโมทนาในคำแนะนำของทุกๆ ท่านครับ
"อภัยทาน" เป็นของทำได้ยากแต่เป็นพี่น้องร่วมสายเลือด และเหตุเพียงเล็กน้อย แม้นจะบ่อยก็ตามด้วยความเป็นน้อง อาวุโสน้อย ยอมได้ควรยอมการง้อไม่ใช่เรื่องแพ้ แต่เพราะคุณชนะใจตนเอง ละความโกรธ ความถือตัวเสียได้อภัยได้ ก็ง้อพี่สาวได้ ด้วยกุศลเจตนา มิใช่ทำเพื่อตัดปัญหาหรือเพื่อตัดรำคาญขออนุโมทนากับทุกท่านค่ะ
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 9 โดย oom
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออนุโมทนาความคิดเห็นที่ 11 ด้วยครับ และลองอ่านในเรื่องของการง้อ ครับ
เชิญคลิกอ่าน....
คนพาลย่อมไม่ถึงความสงบเวร [กัสสปมันทิยชาดก]
ขอบพระคุณมากค่ะ ที่เตือนสติและให้ข้อคิดดีๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อดิฉันมากเลย ความจริงก็พิจารณาอยู่ว่าเราเป็นผู้ขัดเกลากิเลสต้องอดทนได้ต่อทุกอย่าง ต้องหนักแน่นเหมือนแผ่นดินที่รองรับได้ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ถ้าเพียงแค่ความเห็นกับพี่สาวไม่ตรงกัน แล้วมีความโกรธ ก็ไม่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมเลย
ขออนุโมทนาครับ