ปกิณกธรรม ครั้งที่ ๓๑๕ สนทนาธรรมที่โรงพยาบาลพระมงกฎ ปี ๒๕๔๔ โดยท่านอาจารย์สุจินต์
ท่านผู้ถาม กราบเรียนท่านอาจารย์ค่ะ ที่พูดกันว่า "ทุกข์มีอยู่ แต่ผู้เป็นทุกข์ไม่มี" จากการสนทนาก็ทราบว่าที่ว่าผู้เป็นทุกข์ไม่มีก็เพราะเป็นจิตกับเจตสิก ทีนี้ความไม่ชอบอะไรต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางใจ พอจะน้อมมาพิจารณาได้ว่ามันไม่ใช่เป็นเรานะ แต่เวลาที่เป็นทุกข์ทางกายค่ะท่านอาจารย์ ทำยังไงก็เป็นเราเจ็บปวดอยู่ตลอด
ท่านอาจารย์ คะ ก็ต้องไม่ลืมนะคะว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ
ท่านผู้ถาม ลักษณะของทุกขเวทนาก็เป็นธรรมะ ใช่ไหมค่ะ
ท่านอาจารย์ แน่นอนค่ะ ทุกอย่างไม่เว้นเลยนะคะ เดี๋ยวนี้มีไหมค่ะ ทุกขเวทนานั้น
ท่านผู้ถาม ตอนนี้อาจจะอิ่มอยู่นะคะ
ท่านอาจารย์ เดี๋ยวนี้คะ มีไหมค่ะทุกขเวทนาอย่างที่ว่า ทางกาย
ท่านผู้ถาม มีค่ะ
ท่านอาจารย์ เหมือนอันเก่าไหมค่ะ
ท่านผู้ถาม ไม่เหมือน
ท่านอาจารย์ แล้วก็ทุกข์นี้จะคงอยู่ตลอดไปไหมค่ะ
ท่านผู้ถาม โอโฮ ท่านอาจารย์ อย่างนี้ต้องเข้าใจถึงลักษณะที่เดี๋ยวเค้าเกิด เดี๋ยวเค้าไม่เกิด ต้องมาลงตรงนี้
ท่านอาจารย์ คือยังไงก็ตาม ไม่ลืมคำแรกที่ได้ฟัง แล้วก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า แม้แต่คำว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ ระดับไหนที่เราเข้าใจ ระดับฟังเข้าใจแล้วก็พูดตาม แต่เวลาที่สภาพธรรมะอะไรเกิดขึ้นนะค่ะ ทำไมไม่เห็นว่าเป็นธรรมะ จะนอนไม่หลับ ทำไมไม่เห็นว่าเป็นธรรมะ ขณะนั้นเห็นอะไรหรือเปล่า คิดนึกอะไรหรือเปล่า แม้แต่ความคิดของแต่ละคนนี้นะค่ะ ก็บังคับไม่ได้ว่าวันนี้เดี๋ยวนี้จะคิดอะไร ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยที่จะเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัยนั้นๆ เหลือวิสัยที่ใครจะไปทำอะไรได้ แล้วไปนั่งพยายามควบคุม ไปนั่งพยายามทำอะไร แทนที่จะเห็นว่าสภาพธรรมใดเกิดขึ้นนะค่ะ ก็รู้ลักษณะ มีลักษณะปรากฏจริงๆ ให้เข้าใจว่าขณะนั้นเป็นธรรมะอย่างหนึ่ง ตลอดเวลามาแล้วก็เป็นธรรมะแต่ละอย่าง และขณะนี้ก็เป็นธรรมะแต่ละอย่าง ต่อไปข้างหน้าก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดจึงปรากฏให้รู้ลักษณะที่ต่างกันนะค่ะ แต่พอไม่รู้ก็เป็นเรา ก็มีอยู่เท่านี้ค่ะ ไม่รู้ก็เป็นเรา ถ้ารู้จริงๆ นะค่ะ ก็เป็นธรรมะแต่ละอย่าง
กราบเท้าท่านอาจารย์และขออนุโมทนาทุกท่านครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิต ท่านอาจารย์สุจินต์ และคุณผู้ร่วมเดินทางครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่าน ด้วยครับ
ทุกข์มีอยู่ แต่ผู้เป็นทุกข์ไม่มี
สภาพธรรมที่กำลังเกิดขึ้นแล้วดับไปอยู่ทุกๆ ขณะนี้ เดี๋ยวเห็น ได้ยิน..และคิดนึก เป็นทุกข์ แต่เพราะความไม่รู้จึงยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา เราเห็น เราได้ยิน เราทุกข์ เราสุข ... ท่านอาจารย์สุจินต์กล่าวว่า พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรง แสดงไม่ใช่ให้เราไปประจักษ์สภาพธรรมก่อน เราถึงจะเชื่อว่าทุกอย่างเป็นเพียง ธรรม เป็นเพียงจิต เจตสิก และรูปที่เกิดขึ้นเห็น ได้ยิน ... เกิดดับอยู่ขณะนี้ แต่โดย การฟังเพื่อที่จะรู้ว่า เป็นจริงอย่างนี้ไหม สามารถประจักษ์แจ้งได้ไหม นี่เป็นเรื่องที่ ต้องพิสูจน์ในภายหลัง
... เพราะฉะนั้นจึงต้องฟังให้เข้าใจลักษณะสภาพธรรมที่ กำลังปรากฏ จนกว่าสภาพธรรมนั้นจะปรากฏตรงตามที่ได้ฟังมา ... มีแต่สภาพธรรม ไม่มีเรา จนสามารถประจักษ์แจ้งทุกข์มีอยู่ แต่ผู้เป็นทุกข์ไม่มี
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่าน ค่ะ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาเท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่าน ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ