พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 44
๓. อุปเนยยสูตร
[๗] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ชีวิตคืออายุมีประมาณน้อย ถูกต้อนเข้าไปเรื่อย เมื่อบุคคลถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีผู้ป้องกัน บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงทำบุญทั้งหลายที่นำความสุขมาให้.
[๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ชีวิตคือ อายุมีประมาณน้อย ถูกต้อนเข้าไปเรื่อย เมื่อบุคคลถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีผู้ป้องกัน บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงละอามิสในโลกเสีย มุ่งสันติเถิด. บทว่า ชีวิตํ ได้แก่ ชีวิตินทรีย์. บทว่า อปฺปํ แปลว่าเล็กน้อยคือ นิดหน่อย. บัณฑิต พึงทราบ ความที่ชีวิตคือ อายุนั้นเป็นของน้อย โดยอาการ ๒ อย่างคือ ชื่อว่าน้อย เพราะความที่ชีวิตนั้นเป็นไปกับด้วยรสคือ ความเสื่อมสิ้นไปและเพราะความที่ชีวิตนั้นประกอบด้วยขณะ คือครู่เดียว. ก็เมื่อว่าโดยปรมัตถ์ ขณะแห่งชีวิตของสัตว์ทั้งหลายน้อยมาก (เกินเปรียบ) คือสักว่าเป็นไปเพียงจิตดวงเดียวเท่านั้น (ว่าโดยปรมัตถ์ ขณะมี ๓ คือ อุปาทขณะ ฐีติขณะ ภังคขณะ) จึงชื่อว่า น้อย เพราะความที่ชีวิตนามนั้นเป็นของเป็นไปกับด้วยขณะ. อุปมาด้วยล้อแห่งรถ แม้เมื่อหมุนไป ย่อมหมุนไปโดยส่วนแห่งกงรถหนึ่งเท่านั้น แม้เมื่อหยุดอยู่ ก็ย่อมหยุดโดยส่วนแห่งกงรถหนึ่งนั่นแหละ ฉันใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปในขณะแห่งจิตดวงหนึ่ง ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ครั้นเมื่อจิตดวงนั้นสักว่าแตกดับแล้ว ท่านก็เรียกว่า สัตว์ตายแล้ว เหมือนคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า ในขณะแห่งจิตอันเป็นอดีต บุคคล ชื่อว่า เป็นอยู่แล้วมิใช่กำลังเป็นอยู่ มิใช่ จักเป็นอยู่ ในขณะแห่งจิตอันเป็นอนาคต บุคคล ชื่อว่า จักเป็นอยู่ มิใช่เป็นอยู่แล้ว มิใช่กำลังเป็นอยู่ ในขณะแห่งจิตอันเป็นปัจจุบัน บุคคลชื่อว่ากำลังเป็นอยู่ มิใช่เป็นอยู่แล้ว ไม่ใช่จักเป็นอยู่.
ชีวิตํ อตฺตภาโว จ สุขทุกฺขา จ เกวลา เอกจิตฺตสมายุตฺตา ลหุโส วตฺตเต ขโณ. ชีวิต อัตตภาพ สุขและทุกข์ทั้งหมด ประกอบด้วยจิตดวงเดียว ขณะของจิตนั้น ย่อมเป็นไปเร็วพลัน. จิตเหล่าใดของสัตว์ที่กำลังดำรงอยู่หรือกำลังตาย แตกดับไปแล้วในปวัตติกาลนี้ จิตเหล่านั้นทั้งหมด หาได้กลับมาเกิดอีกไม่ แม้ขันธ์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน.
เพราะจิตไม่เกิด สัตว์โลกก็ชื่อว่า ไม่เกิด เพราะจิตเกิดขึ้นเฉพาะหน้า สัตว์โลกก็ชื่อว่า เป็นอยู่ เพราะความแตกดับแห่งจิต สัตว์โลก จึงชื่อว่า ตายแล้ว
นี้ เป็นบัญญัติเนื่องด้วยปรมัตถ์. ฯลฯ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ