พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทานมิใช่จักมีผลมาก ด้วยการถึงพร้อมแห่งไทยธรรมอย่างเดียว ที่แท้ทานจักมีผลมากก็ด้วยความถึงพร้อมแห่งจิตที่เลื่อมใส และด้วยความถึงพร้อมแห่งเขต (ทักขิไณยบุคคล) เพราะฉะนั้น ทานวัตถุเพียงสักข้าวกำมือหนึ่งก็ดี เพียงผ้าเก่าผืนหนึ่งก็ดี เพียงเครื่องลาดทำด้วยหญ้าก็ดี เพียงเครื่องลาดทำด้วยใบไม้ก็ดี เพียงสมอดองน้ำมูตรเน่าก็ดี บุคคลมีจิตเลื่อมใสแล้ว ตั้งไว้ในทักขิไณยบุคคล ทานแม้นั้นก็จักมีผลมาก รุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมากดังนี้
ปีฐวรรควรรณนาที่ ๑ อรรถกถาปฐมปีฐวิมาน หน้า ๙
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑
อนุโมทนา
แล้วเราจะมีโอกาสได้ทำทานกับทักขิไณยบุคคลได้อย่างไร หรือต้องขึ้นกับบุญบารมี
แต่ละบุคคลคะ
ทักขิไณยบุคคลหมายถึงบุคคลผู้ควรได้ของทำบุญ พระสงฆ์ทั่วไปก็ได้ หรือหมู่สงฆ์การให้ที่ไม่เจาะจงว่าต้องเป็นสงฆ์ผู้ใหญ่ นั้นมีผลมากกว่า เพระไม่มีโลภะเป็นบริวารจุดประสงค์ของการทำทาน ก็เพื่อสละความติดข้องพอใจในวัตถุในสิ่งของที่เรามี แบ่งปันสิ่งที่เรามีเพื่อประโยชน์สุขแก่บุคคลอื่น ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้หวังบุญหรือสวรรค์สมบัติก็ต้องทุกข์เพราะต้องกลับมาเกิดอีก
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ