ถ้ามีรูปแบบแผนที่ชัดเจนนอกจากการฟัง ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่การไปทำอะไรที่ผิดปกติ ด้วยความเป็นตัวตน ด้วยความไม่รู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ก่อนอื่นจึงต้องฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ และต้องเข้าใจสิ่งที่กล่าวถึงนั้น คือ อะไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้อย่างไร ซึ่งจะต้องศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ ถ้าไม่ได้ศึกษาแล้ว ความเข้าใจที่ถูกต้องย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ มีแต่ความเห็นผิดและความไม่รู้ เมื่อมีความเห็นผิดแล้ว ทุกอย่างผิดหมด ปฏิบัติก็ผิด แม้จะบอกว่านี้คือการปฏิบัติธรรม นี้คือการเจริญสติปัฏฐาน ก็ไม่ใช่ปฏิบัติธรรม ไม่ใช่เจริญสติปัฏฐาน เพราะเป็นไปกับด้วยความเห็นผิดและความไม่รู้ ไม่มีปัญญาที่เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง
ที่ตั้งที่จะให้สติปัฏฐานเกิดนั้น ก็คือ สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ นี้แหละที่จะเป็นเหตุให้สติปัฏฐานเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ได้ เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้นครับ
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
สติปัฏฐานระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฎ
สติปัฏฐาน คืออะไร เกิดได้อย่างไร
การศึกษาต้องตามลำดับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
กราบ อนุโมทนา ค่ะ
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา
ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม ...
ท่านที่เข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐานถูกต้อง จะทิ้งสิ่งที่ผิดปกติ
การเจริญสติปัฏฐานนั้นต้องมีผู้ควบคุมใช่ไหม
ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานไม่ใช่บังคับให้เป็นอีกบุคคลหนึ่ง
การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่บังคับหรือว่าไม่ใช่ฝืน
พระผู้มีพระภาคจึงมิได้ทรงวางกฏเกณฑ์ในการเจริญสติปัฏฐาน
การเจริญสติปัฏฐาน ต้องติดอยู่ในระเบียบ กฏเกณฑ์ต่างๆ ไหม
จะเจริญสติปัฏฐาน ควรพิจารณาอะไร
สติปัฏฐานมี ๔ ไม่เจาะจงว่า ต้องเจริญเฉพาะสติปัฏฐานนั้น