[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 495
๑๐. สัพพลหุสสูตร
ผลของการผิดศีล ๕
[๑๓๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปาณาติบาตอันบุคคลเสพแล้วเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งปาณาติบาตอย่างเบาที่สุด ย่อมยังความเป็นผู้มีอายุน้อยให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อทินนาทานอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งอทินนาทานอย่างเบาที่สุด ย่อมยังความพินาศแห่งโภคะให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาเมสุมิจฉาจารอันบุคคลเสพแล้วเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งกาเมสุมิจฉาจารอย่างเบาที่สุด ย่อมยังศัตรูและเวรให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มุสาวาทอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งมุสาวาทอย่างเบาที่สุด ย่อมยังการกล่าวด้วยคำไม่เป็นจริงให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปิสุณาวาจาอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งปิสุณาวาจาอย่างเบาที่สุด ย่อมยังการแตกจากมิตรให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผรุสวาจาอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งผรุสวาจาอย่างเบาที่สุด ย่อมยังเสียงที่ไม่น่าพอใจให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมผัปปลาปะอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งสัมผัปปลาปะอย่างเบาที่สุด ย่อมยังคำไม่ควรเชื่อถือให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งการดื่มสุราและเมรัยอย่างเบาที่สุด ย่อมยังความเป็นบ้าให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์.
จบ สัพพลหุสสูตรที่ ๑๐
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 497
อรรถกถาสัพพลหุสสูตรที่ ๑๐
สัพพลุหุสสูตรที่ ๑๐ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้. บทว่า ปาณาติปาโต ได้แก่ เจตนาเป็นเหตุทำสัตว์มีปราณให้ล่วงไป.
บทว่า สพฺพลหุโส แปลว่า เพลากว่าวิบากทั้งหมด.
บทว่า อปฺจายุกสํวตฺตนิโก ความว่า เป็นผู้มีอายุน้อยเพราะกรรมวิบากนิดหน่อยนั้น หรือเมื่อพอให้ปฏิสนธิ สัตว์ที่อยู่ในท้องมารดาหรือสัตว์ผู้พอออกจากท้องมารดาแล้วย่อมย่อยยับ ความจริงวิบากเห็นปานนี้ ไม่ใช่เป็นวิบากเครื่องใหลออกจากกรรมอะไรๆ อื่น นี้เป็นทางไปเฉพาะปาณาติบาตเท่านั้น
บทว่า โภคพฺยสนสํวตฺตนิโก ความว่า ทรัพย์เพียงกากนิกหนึ่ง ไม่ตั้งอยู่ในมือโดยประการใดอทินนาทานย่อมยังความวอดวายแห่งโภคสมบัติให้เป็นไปโดยประการนั้น
บทว่า สปตฺตเวรสํวตฺตนิโก โหติ ความว่า ย่อมสร้างเวรพร้อมกับศัตรู จริงอยู่ ผู้นั้นมีศัตรูมาก อนึ่ง ผู้ใดเห็นเขาเข้าย่อมยังเวรให้เกิดในผู้นั้น ไม่ดับไปด้วยว่าวิบากเห็นปานนี้ เป็นวิบากเครื่องให้ออกแห่งความผิดในภัณฑะของคนอื่นที่เขารักษาคุ้มครองไว้
บทว่า อภตพฺภกฺขานสํวตฺตนิโก โหติ ความว่า ทำการกล่าวตู่ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นจริงให้เป็นไป กรรมที่ผู้หนึ่งผู้ใดทำแล้ว ย่อมไปตกบนกระหม่อมของผู้นั้นนั่นแล.
บทว่า มิตฺเตหิ เภทนสํวตฺตนิโก ความว่า ย่อมยังความแตกจากมิตรให้เป็นไป เขาทำบุคคลใดๆ ให้เป็นมิตร บุคคลนั้นๆ ย่อมแตกไป
บทว่า อมนาปสทฺทสํวตฺตนิโก ความว่า ย่อมยังเสียงที่ไม่พอใจให้เป็นไป วาจาใดๆ เป็นคำเสียดแทงหยาบคาย เผ็ดร้อน ขัดข้อง ตัดเสียซึ่งความรัก เขาได้ฟังแต่วาจานั้นเท่านั้นในที่ๆ ไปแล้วไปเล่า หาได้ฟังเสียงที่น่าชอบใจไม่ เพราะวิบากเห็นปานนี้ ชื่อว่าเป็นทางไปแห่งผรุสวาจา
บทว่า อนาเทยฺยวาจาสํวตฺตนิโก ความว่า ย่อมยังคำที่ไม่ควรยึดถือให้เป็นไป ถึงความเป็นผู้ที่จะถูกค้านว่า เพราะเหตุไรท่านจึง ใครจะเชื่อคำท่าน นี้ชื่อว่าเป็นทางไปแห่งสัมผัปปลาปะ
บทว่า อมฺมตฺตกสํวตฺตนิโก โหติ ความว่า ย่อมยังความเป็นบ้าให้เป็นไป จริงอยู่มนุษย์เป็นบ้ามีจิตฟุ้งซ่านหรือเป็นใบ้ เพราะการดื่มสุรานั้น นี้เป็นวิบากเครื่องใหลออกแห่งสุราปานะ.
สูตรนี้ ตรัสเฉพาะวัฏฏะเท่านั้นแล
จบ อรรถกถาสัพพลหุสสูตรที่ ๑๐
สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น