1. การหลีกเลี่ยงภาษี หรือแจ้งรายได้ไม่หมดผิดศีลไหม
2. ในพระไตรปิฎกบอกหรือไม่ว่าผู้ทำอาชีพนักแสดงตายแล้วต้องไปอบาย เพราะดิฉันเคยอ่านเจอในนิตยสารเล่มหนึ่ง
ขอบคุณค่ะ
ขอผู้รู้ช่วยแสดงความคิดเห็นค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
1. การหลีกเลี่ยงภาษี หรือแจ้งรายได้ไม่หมดผิดศีลไหม
ถ้ามีเจตนาทุจริต หลีกเลี่ยงภาษี เจตนาทุจริต รู้อยู่ แกล้งไม่ตรงตามจริง เป็นอทินนาทานครับ
คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
หลบเลี่ยงภาษีเป็นอทินนาทาน [สุงกฆาตวิภาค] ..1
[เล่มที่ 2] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ 59
ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเดินทางไกลไปกับพวกเกวียนบุรุษคนหนึ่งเกลี้ยกล่อมภิกษุนั้นด้วยอามิสแล้ว เห็นด่านภาษี จึงส่งแก้วมณีซึ่งมีราคามากให้แก่ภิกษุนั้น ด้วยขอร้องว่า ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงช่วยนำแก้วมณีนี้ผ่านด่านภาษีด้วย จึงภิกษุนั้นนำแก้วมณีนั้นให้ผ่านด่านภาษีไปแล้วได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
2. ในพระไตรปิฎกบอกหรือไม่ว่าผู้ทำอาชีพนักแสดงตายแล้วต้องไปอบาย เพราะดิฉันเคยอ่านเจอในนิตยสารเล่มหนึ่ง
จากพระสูตรนี้ ครับ เชิญคลิกอ่านที่นี่
ปัญหาของนักเต้นรำชื่อว่าตาลบุตร [ตาลปุตตสูตร]
การที่นักแสดงจากสูตรที่กล่าวก็น่าพิจารณา การที่นักแสดงนั้นจะตกนรก ก็ต้องมั่นคงในเรื่องของ กรรมบถ คือนักแสดงนั้นก็ต้องพูดเท็จ หรือแม้พูดจริง แต่เจตนาเป็นอย่างไร พูดจริงประกอบด้วยโทสมูลจิตก็ได้ ล่วงออกมาเป็นผรุสวาจา หรือเป็นการพูดเพ้อเจ้อก็ได้ ซึ่งเป็นการหักรานประโยชน์ผู้อื่น หักรานประโยชน์อย่างไรคือแทนที่เขาจะได้ไปฟังธัมมะ หรือประกอบอาชีพ เขาก็เสียประโยชน์เพราะเหตุต้องมาดูการละเล่นของนักแสดง ซึ่งเป็นการครบองค์ของกรรมบถ ย่อมทำให้ไปนรกหรืออบายได้ครับ ดังนั้น ที่สำคัญต้องพิจารณาที่เจตนาเป็นสำคัญ แม้ไม่ใช่นักแสดง ชีวิตประจำวันทั่วไป เราพูด หรือกระทำทางกายอย่างไร ขึ้นอยู่กับเจตนา เช่นกัน ว่าเป็นไปในทางกุศลหรืออกุศล เจตนาเป็นสำคัญ ครับ
ขออนุโมทนา
นอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
~ การหลบเลี่ยงที่จะเสียภาษี ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นผู้ไม่ตรง ถ้ามีเจตนาที่บริสุทธิ์จะไม่ทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน ชีวิตสั้นแสนสั้น พี่พึ่งในชีวิต ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นความดีที่สะสมไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
~ เหตุที่จะทำให้เป็นเกิดในอบายภูมิ คือ อะไร ก็ต้องเป็นการประกอบอกุศลกรรม เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด เป็นต้น ถ้านักแสดง หรือ แม้ไม่ใช่นักแสดง เลย แต่ได้กระทำอกุศลกรรมประการต่างๆ กรรมที่ได้กระทำแล้ว สะสมสืบต่ออยู่ในจิต เมื่อได้เหตุปัจจัย ก็ทำให้ผลเกิดขึ้นได้ โดยเป็นผลที่ไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ โดยส่วนเดียวเท่านั้น สามารถนำเกิดในอบายภูมิได้ด้วย
เพราะฉะนั้น แล้ว สิ่งที่ควรจะได้พิจารณา คือ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ขออย่าได้กระทำอกุศลกรรม และขอให้เพิ่มพูนคุณความดีในชีวิตประจำวัน ไม่ละเลยโอกาสที่จะทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้น โดยเฉพาะความเข้าใจถูกเห็นถูก จากการมีโอกาสได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
" ~ การหลบเลี่ยงที่จะเสียภาษี ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นผู้ไม่ตรง ถ้ามีเจตนาที่บริสุทธิ์จะไม่ทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน ชีวิตสั้นแสนสั้น พี่พึ่งในชีวิต ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นความดีที่สะสมไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่"
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาท่านผู้ตั้งกระทู้และท่านอาจารย์ ช่างบังเอิญที่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันนี้เหมือนกันค่ะ ทำให้มั่นใจที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องมากขึ้นค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ไขข้อข้องใจค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ