ดิฉันขอเรียนถามว่า
สัมภเวสี ประเภทเทวดา และ พวกเปรตอสุรกาย มีเวลาว่างเยอะ เข้าไปฟังธรรมะตามวัดที่สอนได้ใช่มั้ยคะ ดิฉันว่าต้องมีไปฟังแน่ๆ นะคะ
แล้วขอบเขตที่สัมภเวสีพวกนี้ทำได้แค่ไหนคะในการปฏิบัติธรรม
กราบขอบพระคุณค่ะอาจารย์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า สัมภเวสี คือใคร? พวกเรา ยังเป็นสัมภเวสี ด้วยหรือเปล่า?
ตามความเป็นจริงแล้ว ใครก็ตาม ที่ยังไม่ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ได้ชื่อว่าเป็นสัมภเวสี ทั้งหมด เพราะยังต้องเกิดอยู่
ตามข้อความบางตอนจาก
[เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 567
สัมมาทิฏฐิสูตร
“เหล่าสัตว์ที่เสาะหา คือ แสวงหาการสมภพ คือ การเกิด ได้แก่ การบังเกิดขึ้น ชื่อว่า สัมภเวสี. สัตว์เหล่าใด กำลังแสวงหาการเกิด สัตว์เหล่านั้น ชื่อว่า สัมภเวสี, คำว่า สัมภเวสี นี้ เป็นชื่อของพระเสขะและปุถุชนผู้กำลังแสวงหาการเกิดต่อไป เพราะยังละสังโยชน์ในภพไม่ได้ (คือ ละความติดข้องในภพ ยังไม่ได้) ”
การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เป็นเรื่องของการสะสมมาของแต่ละบุคคลจริงๆ เป็นผู้เห็นประโยชน์ของความเข้าใจพระธรรมจึงฟัง จึงศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อความเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง เมื่อว่าโดยสภาพธรรม ไม่มีเทวดา ไม่มีมนุษย์ มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปเท่านั้น มนุษย์ที่สนใจศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญา ก็มี แต่มีเป็นส่วนน้อย ส่วนผู้ที่ไม่สนใจที่จะศึกษา มีมากทีเดียว เช่นเดียวกันกับเทวดา ที่สะสมเหตุที่ดีมาแล้ว เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจพระธรรม ท่านก็มีการฟัง มีการศึกษา มีการสนทนาธรรม เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง เป็นผู้ปฏิบัติธรรม
ในหลายๆ พระสูตร มีข้อความที่แสดงไว้ว่า มีเทวาดาลงมาเข้าเฝ้าทูลถามปัญหา และ ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และในหลายๆ พระสูตร เช่น มงคลสูตร เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม จบลง เทวดาแสนโกฏิบรรลุเป็นพระอรหันต์ ส่วน จำนวนของผู้ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี นั้น นับไม่ได้ เป็นต้น แสดงให้เห็นว่า เทวดาที่สนใจฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ปฏิบัติธรรม ได้รับประโยชน์จากพระธรรม ตามกำลังปัญญาของตนเอง ก็มี ส่วนเทวดาที่ไม่สนใจฟังธรรม มัวแต่เพลินเพลินในการเล่น ในการติดข้องในสมบัติของตนที่เกิดขึ้นด้วยผลของกุศลกรรม ก็มี เช่นกัน จึงขึ้นอยู่กับการสะสมมาของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง แต่ถ้าเป็นสัตว์ในอบายภูมิแล้ว เช่นเปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน ย่อมไม่มีโอกาสที่จะได้อบรมเจริญปัญญาในขณะที่ยังเป็นสัตว์ในอบายภูมิอยู่
จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดพิจารณาทีเดียวว่า แทนที่จะไปคิดถึงเรื่องอื่น หรือ คนอื่น แต่ควรที่จะได้รู้ว่ากิจที่เราควรทำที่สุด คือฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาต่อไป
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานมรดกที่ล้ำค่า คือ พระธรรม อันเป็นวาจาสัจจะ คำจริงทุกคำที่เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก แล้วเราจะรับเอามรดกอันล้ำค่านี้หรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานมรดกที่ล้ำค่า คือ พระธรรม อันเป็นวาจาสัจจะ คำจริงทุกคำที่เป็นไปเพื่่อความเข้าใจถูกเห็นถูก แล้วเราจะรับเอามรดกอันล้ำค่านี้หรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ ครับ.
ดิฉันรับค่ะ รับ ดิฉันตั้งใจศึกษาและฟังเสียงท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยค่ะ ยกเว้นช่วงสอบ
กราบอนุโมทนาค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ เรื่องสัมภเวสี มีพระอรหันต์เท่านั้นที่ ไม่ใช่สัมภเวสี เสขบุคคล 7 ก็ยังชื่อว่าสัมภเวสี อเสกขบุคคลเท่านั้นที่ไม่ใช่สัมภเวสี ในขณะที่พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดพุทธมารดา คือ สันตุสิตเทวบุตร ก็มี เทวดาและพรหมมาจากหมื่นจักรวาฬ ยังมาร่วมฟังพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ตลอดพรรษานั้น ตอนนี้เทวดา พรหมบางท่านก็คงศึกษากันเองเหมือนโลกมนุษย์นะคะ แต่พวกเปรต อสุรกายนั้น ตามวัดน่าจะมีอยู่ เวลาพระสวดมนต์ทุกวันไม่ไป นั่งฟังบ้างเลยหรือคะ อยากรู้จังค่ะ ทราบว่าวิญญาณที่ตายไปมาฟังสวดศพตนเอง แล้วค้างคาว ๕๐๐ ตัว ที่เคยฟังพระกัสสปะ ก็ยังได้อานิสงส์ไปเกิดบนสวรรค์ และสำเร็จอรหันต์ได้ในสมัยพระพุทธองค์
ดิฉันขอบพระคุณอาจารย์นะคะที่เมตตาเตือนให้สนใจกิจของตนเอง แต่ว่า ดิฉันอยากรู้ค่ะ มันบังคับบัญชาไม่ได้ เลยต้องมาถามอาจารย์ให้หายข้องใจค่ะ
กราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ ถ้ามีอะไรอธิบายเพิ่มเติม เมตตาอธิบายมาเลยค่ะ ดิฉันชอบอ่านค่ะ เรื่องภพภูมิมันลึกลับน่ารู้น่าสนใจจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณมากค่่ะ
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ