คนเป็นเกย์ เป็นกระเทย ทำไมยังบวชได้ในไทย
โดย อิ่ม  29 ก.พ. 2555
หัวข้อหมายเลข 20663

เห็นข่าวที่เชียงใหม่ พระตุ๊ด พระแต๋ว พระเกย์ เยอะมากเลย

พอไปบวชก็กิริยาไม่สำรวม บางรูปก็เอาจีวร มาใส่แบบกระโจมอก บางรูป ก็ถ่ายรูปเหมือนแฟชั่น

เห้อ ...



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 29 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นเรื่องละเอียดและต้องพิจารณาตามความเหมาะสมครับ แม้แต่การให้บวช ก็ต้องพิจารณาองค์ต่างๆ ซึ่ง หากเป็น บัณเฑาะก์ ที่เป็นกะเทย ประเภท ไม่มีภาวรูป ไม่มีอวัยวะเพศเลยตั้งแต่กำเนิด ไม่อนุญาตให้บวช

ส่วนหากมีใจเป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้แสดงกิริยาอาการอันไม่สมควร อันนี้ในพระไตรปิฎกก็ไม่ได้ห้ามการบวชไว้ครับ แต่ถ้า ทำแสดงกิริยาอาการไม่เหมาะสมกับความเป็นเพศของตน รวมถึงอาจมีการแต่งตัวไม่เหมาะสม เอนเอียงไปทางเพศอื่น หรือ อาจตัดอวัยวะเพศแล้ว พระอุปัชฌาย์ก็สามารถพิจารณาว่าไม่ควรให้บวชได้ครับ เพราะหากผิดเพี้ยนมาก ย่อมทำให้คณะสงฆ์ไม่สงบสุข และไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของประชุมชน และนำมาซึ่งความติเตียนของประชุมชนได้ครับ ดังเช่น ที่เราเห็นข่าวในเรื่องพระภิกษุ ทำตนไม่เหมาะสม ในการแต่งตัวและแสดงอาการของเพศหญิง ดูแล้วไม่เหมาะสม ดังนั้นก็สามารถพิจาณาได้ ไม่ควรบวช ตามเหตุผลที่กล่าวมา

แต่ที่มีการให้บวชในสมัยปัจจุบัน ก็เพราะพระที่ให้บวชไม่ได้พิจารณาให้ดีเสียก่อน รวมทั้ง เป็นธรรมดาของพระพุทธศาสนาที่จะค่อยๆ เสื่อมไปตามกาลเวลา เพราะ ขาดความเข้าใจพระธรรม ดังนั้น ซึ่งแต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่ง บังคับบัญชาไม่ได้เลย ครับ

เรื่องของคนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น แต่สำหรับเราแล้ว ควรอย่างยิ่งที่จะกระทำกิจที่พึงกระทำ ด้วยการตั้งใจศึกษาพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก สะสมเป็นที่พึ่งให้กับตนเองต่อไป

เพราะปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้เห็นตามความเป็นจริงและไม่เป็นอกุศล และรักษาใจของผู้นั้นเอง ไม่ว่าจะพบเจอเหตุการณ์อะไรในชีวิตประจำวัน เพราะเข้าใจตามความเป็นจริง

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความโดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อนี้ ครับ

ผลกรรมแต่ชาติที่แล้ว

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย tookta  วันที่ 29 ก.พ. 2555

เราอาจจะมีความคิดไม่เหมือนใคร ถ้าเราคิดผิดก็ขออภัยด้วยนะคะ คิดว่าไม่ว่าจะเป็นเกย์ เป็นตุ๊ด หรือจะเป็นหญิงหรือชาย จะถือบวช หรือจะเป็นฆราวาส ถ้ามีใจที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นจะต้องแต่งกายให้เหมือนพระหรือแม่ชี (ขอให้มีความจริงใจในการที่จะประพฤติปฏิบัติดีน่าจะดีกว่านะ)


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 29 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อไม่เข้าใจว่า จุดประสงค์ของการบวชที่แท้จริงคืออะไร โอกาสที่จะไม่คล้อยตามพรธรรมวินัย ประพฤติในสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ และเป็นความจริงที่ว่า ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง ซึ่งมาจากใจ ก็ย่อมจะมีได้ ตามการสะสมของแต่ละบุคคล

สำหรับเพศบรรพชิตแล้ว ท่านจะมีพระอุปัชฌาย์ พระเถระ คอนตักเตือนพร่ำสอนให้รู้ว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร เพื่อจะได้สำรวมตามพระธรรมวินัย ต่อไป ดังนั้น ความเข้าใจพระธรรมวินัยของพระอุปัชฌาย์ พระเถระทั้งหลาย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อจะได้พร่ำสอนพระภิกษุหรือสามเณรที่บวชในภายหลังได้อย่างถูกต้อง

จุดประสงค์ของการบวชที่แท้จริง คือ เพื่อศึกษาพระธรรมขัดเกลากิเลสให้ยิ่งขึ้น ให้สมกับเพศของตนที่สละอาคารบ้านเรือน วงศาคณาญาติ ทรัพย์สมบัติ เป็นต้น แล้วเข้าสู่ความเป็นบรรพชิต ถ้าไม่คำนึงถึงประโยชน์ของการบวชพร้อมทั้งไม่มีความเข้าใจพระธรรมวินัยอย่างถูกต้องแล้ว ความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งนอกเหนือไปจากตัวอย่างที่เป็นคำถาม นั้น ก็มีอยู่มากมายทีเดียว เป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องของบุคคลอื่น ก็เป็นเรื่องของบุคคลอื่น แต่เราควรจะกระทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ด้วยการศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ความเข้าใจพระธรรมนี้เอง จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับชีวิต ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย paderm  วันที่ 29 ก.พ. 2555

เรียนความเห็นที่ 2 ครับ

จากที่ผู้ร่วมสนทนากล่าวมา ก็พอเข้าใจได้ครับว่า ปัญญาไม่ได้เลือกที่จะเกิด ไม่ว่าอยู่ในเพศใด ไม่ว่าจะเป็นบรรพชิต หรือ คฤหัสถ์ ก็สามารถอบรมปัญญาและดับกิเลสได้ แต่เราจะต้องเข้าใจความต่างกันของเพศบรรพชิตและเพศคฤหัสถ์ ครับว่า ต่างกันราวกับฟ้าและดิน คือ เพศบรรพชิตเป็นผู้ที่สละอาคารบ้านเรือน เพื่อการดับกิเลส และจะต้องประพฤติตามพระวินัยบัญญัติ ด้วยจะไม่เหมือนคฤหัสถ์แล้ว จึงต้องประพฤติปฏิบัติตัวให้เหมาะสมในเพศบรรพชิต และต้องมีข้อห้ามที่จะไม่ให้บวชด้วย เพราะหากบุคคลประเภทนี้บวชไปแล้ว ย่อมจะทำลายศรัทธาของบุคคลอื่น และเป็นที่ติเตียนของบุคคลอื่นได้ ดังที่เราเห็นข่าวในปัจจุบัน ตามที่หัวข้อกระทู้กล่าวมา จึงมีข้อห้ามที่บางบุคคลบวชได้ บางบุคคลบวชไม่ได้ เพื่อความสงบเรียบร้อยของคณะสงฆ์

จึงไม่ใช่ว่า หากมีความจริงใจที่จะอบรมปัญญา แต่ว่า เป็นบุคคลต้องห้ามในการบวช ก็ไม่สามารถบวชได้ ครับ แต่ก็สามารถอบรมปัญญาในเพศคฤหัสถ์ได้ และถ้ารู้ว่า ไม่มีอัธยาศัยในการบวช เป็นต้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องบวช เพราะสามารถอบรมปัญญาในเพศคฤหัสถ์ได้ แต่หากว่าบวชเข้ามาแล้ว ก็ต้องประพฤติตามพระวินัยบัญญัติอย่างเคร่งครัด

ดังนั้น การอบรมปัญญาได้นั้น ทุกเพศอบรมได้ก็จริง แต่ ความต่างของเพศ ก็ต้องมีการประพฤติที่ต่างกันด้วย ครับ คือ เมื่อเป็นเพศบรรพชิต ก็ต้องขัดเกลาและประพฤติให้ถูกต้องในเพศบรรพชิต มีการประพฤติตามพระวินัยบัญญัติ ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 5    โดย เซจาน้อย  วันที่ 29 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย หลานตาจอน  วันที่ 1 มี.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย jaturong  วันที่ 1 มี.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย wannee.s  วันที่ 2 มี.ค. 2555

ศาสนาเสื่อม เพราะ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย orawan.c  วันที่ 9 มี.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ