ผู้เข้าใจตอบว่า เกิดพร้อมกัน ข้าพเจ้าถามว่าเกิดจากสิ่งใหน ท่านตอบว่า ความเข้าใจได้ยาก เป็นนัยของนิพพาน เพราะทุกสิ่งเกิดจากความเข้าใจได้ยากไปสู่ความรู้สึกกับตน และความรู้สึกกับตนเดินทางไปสู่อารมณ์อาการต่างๆ ที่เราเรียกว่าจิตและเจตสิกนั้นเอง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมเป็นเรื่องละเอียด ลึกซึ้ง ตรงไปตรงมา มีเหตุผล และ ไม่ใช่การเล่นคำให้สละสลวย พระพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงว่า ทุกอย่างที่ปรากฏ เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคล คือ เป็น จิต เจตสิก รูป เพราะ มีสภาพธรรมที่เป็นจิต เจตสิก รูป เกิดขึ้น จึงสมมติบัญญัติว่าเป็นเรา เป็นตน เป็นสัตว์ บุคคล
เพราะฉะนั้น ตนในที่นี้ ก็คือ จิต เจตสิกที่เกิดขึ้นเป็นไป และ เมื่อได้ศึกษาพระอภิธรรมโดยละเอียด ความรู้สึก ก็เป็น สภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นเจตสิก คือ เวทนาเจตสิก
เพราะฉะนั้น เมื่อเวทนาเกิดขึ้น ที่เป็นเจตสิก ต้องเกิดพร้อมกับจิตเสมอ เพราะฉะนั้น ที่สมมติว่าเป็นตน ก็คือ จิต เจตสิกที่เกิดขึ้นพร้อมกัน จึงสามารถกล่าวได้ว่า ความรู้สึก และ ตนที่เป็นจิต เจตสิก เกิดพร้อมกัน ครับ ไม่มีใครเกิดก่อน แต่เกิดพร้อมกัน ครับ
ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งสำคัญ คือ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ สะสมความมั่นคงในความเป็นจริงของธรรม ซึ่งก็คือสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ซึ่งเป็นจิต เจตสิก และรูป จิตและเจตสิกเกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต ส่วนรูปธรรม เกิดจากสมุฏฐานของตนๆ แล้วก็ดับไป ทั้งหมดล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา ความรู้สึก เป็นนามธรรม คือ เป็นเวทนาเจตสิก เกิดร่วมกับจิตทุกขณะ ตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ ส่วนพระนิพพาน ไม่เกิดไม่ดับ แต่มีจริงๆ เป็นสภาพธรรมที่ดับทุกข์ดับกิเลส ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เกิดดับอย่างสิ้นเชิง
เมื่อสะสมความเข้าใจไปตามลำดับ ก็จะรู้ได้เลยว่า คำไหน จริง คำไหนไม่จริง และเมื่อเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ยังสามารถเกื้อกูลให้ผู้อื่นเข้าใจถูกได้ด้วย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ความรู้สึกเป็นนามธรรม รู้สึก สุข ทุกข์ และเฉยๆ ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ