พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 47ว่าด้วยทำบุญต้องมุ่งนิพพาน
[๘๒๖] คำว่า นรชนพึงเป็นผู้มีใจน้อมไปในนิพพาน ความว่า
นรชนบางคนในโลกนี้ ให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถกรรม เข้าไป
ตั้งไว้ซึ่งน้ำดื่มน้ำใช้ กวาดบริเวณ ไหว้พระเจดีย์ บูชาด้วยเครื่องหอมและ
ดอกไม้ที่พระเจดีย์ ทำประทักษิณพระเจดีย์ บำเพ็ญกุศลที่ควรบำเพ็ญอย่าง
ใดอย่างหนึ่งอันเป็นไตรธาตุ ก็ไม่บำเพ็ญเพราะเหตุแห่งคติ ไม่บำเพ็ญ
เพราะเหตุแห่งอุปบัติ ไม่บำเพ็ญเพราะเหตุแห่งปฏิสนธิ ไม่บำเพ็ญ
เพราะเหตุแห่งภพ ไม่บำเพ็ญเพราะเหตุแห่งสงสาร ไม่บำเพ็ญเพราะเหตุ
แห่งวัฏฏะ เป็นผู้มีความประสงค์ในอันพรากออกจากทุกข์ มีใจน้อมโน้ม
โอนไปในนิพพาน ย่อมบำเพ็ญกุศลทั้งปวงนั้น แม้เพราะเหตุอย่างนี้
ดังนี้ จึงชื่อว่า นรชนพึงเป็นผู้มีใจน้อมไปในนิพพาน.
สาธุ
ผมยังเพลินเพลินในวัฏฏะ ยังยินดีในทุกข์ทั้งหลาย
ใจผมจึงไม่น้อมไปในพระนิพพาน
เวลาเจริญกุศล ผมจึงมักจะขอให้ได้นั่งใกล้บัณฑิต และขอให้ได้ฟังพระสัทธรรม
ผมเชื่อว่า ถ้าผมได้นั่งใกล้บัณฑิตและได้ฟังพระสัทธรรมไปเรื่อยๆ
ใจผมก็จะละคลายความยินดีในทุกข์อย่างหยาบ
และน้อมไปในทุกข์ที่ละเอียดยิ่งๆ ขึ้น ......
ในที่สุดก็จะน้อมไปในพระนิพพานเองเป็นปกติธรรมดา
"...ผมเชื่อว่า ถ้าผมได้นั่งใกล้บัณฑิตและได้ฟังพระสัทธรรมไปเรื่อยๆ
ใจผมก็จะละคลายความยินดีในทุกข์อย่างหยาบ
และน้อมไปในทุกข์ที่ละเอียดยิ่งๆ ขึ้น ......
ในที่สุดก็จะน้อมไปในพระนิพพานเองเป็นปกติธรรมดา..."
สาธุ ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ